เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ยาเพิ่มสมรรถนะทางเพศให้กับผู้หญิง หรือที่รู้จักในนาม “ไวอะกร้าผู้หญิง” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ ฟลิแบนเซริน (Flibanserin) หรือ BIMT-17 กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาขององค์กรอาหารและยาสหรัฐฯ FDA จะถูกนำเข้าที่ประชุมบอร์ดที่ปรึกษาจากภายนอก ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่มีการนำยาตัวนี้เข้าวาระการประชุมในวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) นี้ และหากประสบความสำเร็จจะถือเป็นการรักษาการแพทย์โดยการใช้ยาสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นครั้งแรกของโลก
อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์ และเอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (3) ว่า จากการศึกษาพบว่า ถึงแม้มีกลุ่มชายจำนวนแค่ 31% ประสบปัญหาด้านสมรรถภาพทางเพศ แต่ทว่าการศึกษาวิจัยด้านนี้กลับมีจำนวนมากซึ่งรวมไปถึงไวอะกร้า การวิจัยอย่างก้าวกระโดดทำให้ชายสามารถออกมาจากโลกมืดได้สำเร็จ อ้างอิงตัวเลขจากวารสารสหพันธ์การแพทย์อเมริกา Journal of the American Medical Association
แต่ทว่าเป็นที่น่าเสียดายว่า ในทางกลับกันที่ถึงแม้จะมีรายงานชี้ว่ามีหญิงจำนวนถึง 43% ที่ประสบปัญหาเสื่อมสมรรถนะทางเพศ แต่กลับไม่มีการศึกษาในเรื่องนี้มากนัก และองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA ไม่เคยอนุมัติยาเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศสตรีให้แม้แต่รายเดียว นายแพทย์ไอร์วิน โกลด์สไตน์ (Irwin Goldstein) ผู้อำนวยการด้านการแพทย์เพื่อสุขภาพทางเพศประจำโรงพยาบาลอัลวาราโด (Alvarado Hospital) ในเมืองซาดิเอโกกล่าว
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีรายงานว่า ยาเพิ่มสมรรถนะทางเพศให้แก่ผู้หญิง หรือที่รู้จักในนาม “ไวอะกร้าผู้หญิง” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ ฟลิแบนเซริน (Flibanserin) หรือ BIMT-17 นั้นมีเป้าหมายทางการตลาดไปที่กลุ่มหญิงก่อนวัยหมดประจำเดือน นั้นอาจส่งผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ได้ เป็นต้นว่า คลื่นไส้ มึนศีรษะ และรวมไปถึงง่วงซึม
ในการประชุมครั้งที่ 3 ในวันนี้ (4) ทางบอร์ดที่ปรึกษาจากภายนอกของ FDA จะหารือเพิ่มเติมโดยการพิจารณาหลักฐานจากการวิจัยทางคลินิก และจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสองฝ่ายในส่วนต้านการประกาศใช้ยาและในส่วนสนับสนุนยาตัวนี้ และในช่วงท้ายสุดจะมีการออกเสียงลงมติ ที่ถึงแม้การโหวตตัดสินใจครั้งนี้จะยังไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะนำมาสู่การอนุญาตยาไวอะกร้าผู้หญิง แต่ทว่าหน่วยงานองค์การอาหารและยา FDA มักจะเห็นคล้อยตามแนวทางตัดสินใจของบอร์ด
อัลญะซีเราะห์รายงานเพิ่มเติมว่า ฟลิแบนเซรินนั้นผลิตโดยบริษัท สเปราท์ ฟามาซูติคอลส์ (Sprout Pharmaceuticals) ซึ่งมีฐานอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ เป็นก้าวแรกที่มีการวิจัยปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมผ่านการวิจัยด้านสมอง แทนที่จะแก้ปัญหาทางโฮโมนทางเพศเหมือนเช่นที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ ฟลิแบนเซริน แต่แรกเริ่มถูกพัฒนาเพื่อใช้บำบัดอาการซึมเศร้า แต่ทว่าผลการใช้กลับไม่ประสบความสำเร็จ ในทางกลับกันยาตัวนี้กลับช่วยเพิ่มความต้องการทางแพทย์