นักวิชาการติง อภ. ประโคมข่าว “ยาซิเดกรา” รักษาอาการนกเขาไม่ขัน ทำภาพลักษณ์เสียเป็นการเน้นผลิตยาตลาด มากกว่าผลิตยารักษาชีวิต เตือนอย่าลืมบทบาทตัวเอง
ผศ.ภญ.สุนทรี ท.ชัยสัมฤทธิ์โชค อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกกังวลกับบทบาทขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) กรณีการผลิตยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ “ซิเดกรา” ออกมาจำหน่าย เนื่องจากมีการโฆษณาแอบแฝงในสื่อทั้งสิ่งพิมพ์และรายการโทรทัศน์ อาทิ การให้ข้อมูลว่าราคาถูกกว่ายาต่างประเทศ ยา 3 - 4 แสนเม็ดขายหมดภายใน 20 นาที หรือจะกระจายยาไปวางจำหน่ายในระดับอำเภอ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ภาพที่ออกมากลายเป็นว่า อภ. เน้นน้ำหนักไปที่ยาตลาด ยาแบบ Lifestyle Drug สวนทางกับความคาดหวังของสังคมที่ต้องการเห็น อภ. เป็นผู้นำในเรื่องการผลิตยา Life saving Drugs เพื่อประชาชนและคนจน
“เข้าใจว่า อภ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่ก็ต้องทำกำไรด้วย และเขาก็อาจบอกว่าเอากำไรจากยา Lifestyle Drug มาช่วยเหลือจุนเจือในการผลิตยา Life saving Drugs แต่ก็อยากให้รู้หน้าที่หลักของตัวเองด้วยว่าพันธกิจต่อสังคมคืออะไร อภ. ลืมหน้าที่หลักไปแล้วหรือเปล่า เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวว่ายังมียาที่จำเป็น ยา Life saving Drugs อีกเยอะแยะที่ไม่ได้ผลิต ไม่ได้ส่ง ไม่รู้ว่าทำไปถึงไหนแล้ว อยากเห็นข่าวในลักษณะของตัวชี้วัดว่า อภ.สำเร็จในการผลิตยาเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอย่างนี้มากกว่า ถ้าภาพของอภ.กลายเป็นผู้เล่นที่เล่นเรื่องยาตลาด แล้วต่อไปจะมาพูดเรื่องการเป็นผู้ผลิตยาเพื่อประชาชน เพื่อคนจน มันก็จะพูดได้ไม่ชัด” ผศ.ภญ.สุนทรี กล่าว
ผศ.ภญ.สุนทรี กล่าวว่า ยาที่ได้รับอนุญาตให้โฆษณาส่งเสริมการขาย จะเป็นยาที่ประชาชนใช้ในการดูแลตัวเองได้ อาทิ ยาแก้ปวดลดไข้ ซึ่งไม่ใช่ยาซิเดกรา แต่การโฆษณาแอบแฝงในหนังสือพิมพ์ธุรกิจหรือรายการข่าวทางโทรทัศน์ จะเกิดคำถามว่าทำไมรัฐวิสาหกิจทำได้ แต่บริษัทยาเอกชนทำไม่ได้ เป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน หรือไม่ขึ้นมาอีก ที่สำคัญ เราไม่ได้อยากให้คนใช้ยาพร่ำเพรื่อ ยิ่งหาง่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนใช้ยาความเกินจำเป็น ซึ่งหากทานมากๆ มันก็เกินอันตรายจากการใช้ยาได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ผศ.ภญ.สุนทรี ท.ชัยสัมฤทธิ์โชค อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกกังวลกับบทบาทขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) กรณีการผลิตยารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ “ซิเดกรา” ออกมาจำหน่าย เนื่องจากมีการโฆษณาแอบแฝงในสื่อทั้งสิ่งพิมพ์และรายการโทรทัศน์ อาทิ การให้ข้อมูลว่าราคาถูกกว่ายาต่างประเทศ ยา 3 - 4 แสนเม็ดขายหมดภายใน 20 นาที หรือจะกระจายยาไปวางจำหน่ายในระดับอำเภอ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ภาพที่ออกมากลายเป็นว่า อภ. เน้นน้ำหนักไปที่ยาตลาด ยาแบบ Lifestyle Drug สวนทางกับความคาดหวังของสังคมที่ต้องการเห็น อภ. เป็นผู้นำในเรื่องการผลิตยา Life saving Drugs เพื่อประชาชนและคนจน
“เข้าใจว่า อภ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่ก็ต้องทำกำไรด้วย และเขาก็อาจบอกว่าเอากำไรจากยา Lifestyle Drug มาช่วยเหลือจุนเจือในการผลิตยา Life saving Drugs แต่ก็อยากให้รู้หน้าที่หลักของตัวเองด้วยว่าพันธกิจต่อสังคมคืออะไร อภ. ลืมหน้าที่หลักไปแล้วหรือเปล่า เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวว่ายังมียาที่จำเป็น ยา Life saving Drugs อีกเยอะแยะที่ไม่ได้ผลิต ไม่ได้ส่ง ไม่รู้ว่าทำไปถึงไหนแล้ว อยากเห็นข่าวในลักษณะของตัวชี้วัดว่า อภ.สำเร็จในการผลิตยาเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอย่างนี้มากกว่า ถ้าภาพของอภ.กลายเป็นผู้เล่นที่เล่นเรื่องยาตลาด แล้วต่อไปจะมาพูดเรื่องการเป็นผู้ผลิตยาเพื่อประชาชน เพื่อคนจน มันก็จะพูดได้ไม่ชัด” ผศ.ภญ.สุนทรี กล่าว
ผศ.ภญ.สุนทรี กล่าวว่า ยาที่ได้รับอนุญาตให้โฆษณาส่งเสริมการขาย จะเป็นยาที่ประชาชนใช้ในการดูแลตัวเองได้ อาทิ ยาแก้ปวดลดไข้ ซึ่งไม่ใช่ยาซิเดกรา แต่การโฆษณาแอบแฝงในหนังสือพิมพ์ธุรกิจหรือรายการข่าวทางโทรทัศน์ จะเกิดคำถามว่าทำไมรัฐวิสาหกิจทำได้ แต่บริษัทยาเอกชนทำไม่ได้ เป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน หรือไม่ขึ้นมาอีก ที่สำคัญ เราไม่ได้อยากให้คนใช้ยาพร่ำเพรื่อ ยิ่งหาง่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนใช้ยาความเกินจำเป็น ซึ่งหากทานมากๆ มันก็เกินอันตรายจากการใช้ยาได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่