เอเอฟพี - เด็กชายชาวฟิลิปปินส์ที่ป่วยเป็นโรคออทิสติกและมารดาของเขา ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียต่อไปได้ หลังมีประชาชนนับแสนเข้าชื่อเรียกร้องขอความเห็นใจจากรัฐบาลในนามของพวกเขา ปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกระทรวงคนเข้าเมืองออสเตรเลีย แถลงวันนี้ (25 พ.ค.)
ไทโรน เซวิลลา เข้ามาอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอย่างถูกกฎหมายตั้งแต่อายุ 2 ขวบพร้อมกับนาง มาเรีย เซวิลลา ผู้เป็นมารดา ซึ่งปัจจุบันเป็นพยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์
เมื่อปี 2008 แพทย์ได้วินิจฉัยว่า ไทโรน ป่วยเป็นออทิสติก ซึ่งเป็นโรคที่คณะกรรมการพิจารณาสถานภาพผู้อพยพ (Migration Review Tribunal - MRT) ระบุว่ามี “ค่าใช้จ่ายสูง” สำหรับสังคมออสเตรเลีย และได้ใช้เป็นข้ออ้างที่จะไม่ต่อวีซาให้สองแม่ลูก
ดัตตันระบุว่า เขาได้สั่งยกเลิกคำตัดสินนั้นแล้ว “หลังจากพิจารณาปัญหาของครอบครัวนี้ ผมตัดสินใจว่าเราจะให้วีซ่าพวกเขาอย่างถาวร ซึ่งผมก็เชื่อว่าจะเป็นการดีต่อพวกเขา” รัฐมนตรีผู้นี้กล่าว
“ผมรู้สึกยินดีที่เราสามารถช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านการรักษาพยาบาลและการศึกษา และในฐานะประเทศที่มีน้ำใจไมตรี เราก็พร้อมทำเช่นนั้น”
เรื่องราวของไทโรน เซวิลลา กลายเป็นข่าวโด่งดังในออสเตรเลีย หลังจากเพื่อนของเขาคนหนึ่งในสถานรับดูแลเด็กหลังเลิกเรียนตั้งคำถามออกสื่อโทรทัศน์ว่า “ถ้าเขาเข้ากับพวกเราได้ และเราก็เข้ากับเขาได้ ทำไมเขาต้องถูกเนรเทศด้วย”
ก่อนหน้านี้ มาเรีย เซวิลลาได้นำหนังสือร้องเรียนที่มีผู้เข้าชื่อสนับสนุนมากกว่า 120,000 คนไปยื่นที่สำนักงานของ ดัตตัน ในเมืองบริสเบน โดยหวังว่าจะได้รับความเห็นใจ
สหภาพพยาบาลวิชาชีพรัฐควีนส์แลนด์ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์ช่วยเหลือแม่ลูกคู่นี้ ระบุว่า เซวิลลา ยังต้องรอหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงคนเข้าเมืองเสียก่อน แต่เท่าที่ทราบข่าวก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่
“หนังสือแจ้งจากสำนักงานรัฐมนตรี ดัตตัน ซึ่งจะออกในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า จะช่วยให้ความเครียดและความไม่แน่นอนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสิ้นสุดลงเสียที... เราทุกคนซาบซึ้งในความกรุณาของท่านรัฐมนตรี และรอที่จะฉลองการอนุมัติวีซ่าถาวรให้แก่ มาเรีย และ ไทโรน”
รัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายสกัดกั้นผู้ลี้ภัยทางเรืออย่างจริงจัง โดยปฏิเสธที่จะรับคนเหล่านี้เข้ามาตั้งถิ่นฐานแม้จะพบว่าเป็นผู้ลี้ภัยอย่างถูกต้อง แต่จะส่งต่อไปยังประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกแทน