เอเอฟพี - หอไอเฟล สัญลักษณ์ของกรุงปารีสต้องปิดบริการชั่วคราวในวันศุกร์(22พ.ค.) หลังเหล่าพนักงานประจำอนุสรณ์สถานแห่งนี้พากันผละงานประท้วงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันมากขึ้น หลังแก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวออกอาละวาดหนัก
การปิดสถานที่ซึงมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านที่สุดในเมืองหลวงของฝรั่งเศสครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ย้อนให้นึกถึงการประท้วงลักษณะเดียวกันที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เมื่อปี 2013
ถ้อยแถลงของพนักงานระบุว่าพวกเขาต้องเลือกปิดบริการเพราะเกิดเหตุการล้วงกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นรอบๆหอไอเฟล ขณะเดียวกันบางครั้งนักท่องเที่ยวยังต้องเผชิญการข่มขู่และถูกทำร้ายร่างกายด้วย โดยพนักงานต้องการให้เจ้าหน้าที่หามาตรการเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก
"มีแก๊งล้วงกระเป๋ากลุ่มหนึ่งจะมีสมาชิก 4-5 คน แต่บางครั้งก็มากถึง 30 คน กระจายอยู่รอบอนุสรณ์สถาน" พนักงานคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพี พร้อมเผยว่าบางทีพวกเขาก็ต้องต่อสู้กับแก๊งมิจฉาชีพด้วยตนเอง
เหตุผละงานประท้วงจนนำไปสู่การปิดหอไอเฟล ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวราว 7 ล้านคนในแต่ละปี สร้างความผิดหวังแก่นักท่องเที่ยวหลายร้อยคน โดยทางบริษัทที่รับผิดชอบบริหารจัดการอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ออกคำแถลงแสดงความเสียใจต่อผู้มาเยือนที่เดินทางมาถึงแล้ว แต่กลับไม่สามารถเข้าเที่ยวชมได้ พร้อมระบุว่าพวกเขากำลังร่วมมือกับตำรวจในการหามาตรการรับประกันความปลอดภัยแก่พนักงานและประชาชน
ปารีส ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวลำดับต้นๆของโลก โดยจากข้อมูลของทางการพบว่าเมื่อปี 2014 เมืองแห่งนี้ได้ต้อนรับผู้มาเยือนกว่า 22 ล้านคน แต่ขณะเดียวกันมันก็กลายเป็นเมกกะสำหรับพวกต้มตุ๋นและนักล้วงกระเป๋า ซึ่งมักเล็งเป้าหมายไปที่นักท่องเที่ยวเอเชีย โดยเฉพาะเหล่าผู้มั่งมีชาวจีน
หนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศสรายงานว่า ตำรวจ26,000นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลจะลงพื้นที่ตรวจตราตามถนนของกรุงปารีสตลอดฤดูร้อนนี้ เพื่อจัดการกับแก๊งล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยว