xs
xsm
sm
md
lg

ประธานองค์กรสิทธิโรฮีนจาประณามมาเลเซีย “ไร้มนุษยธรรม” ตั้งคำถามทำไมรับ “ผู้อพยพบอสเนีย” เข้าประเทศหน้าตาเฉย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้แทนองค์กรสิทธิมนุษยชนโรฮีนจาออกโรงประณามรัฐบาลมาเลเซียในวันอาทิตย์ (17 พ.ค.) โดยระบุว่า “ไร้มนุษยธรรม” ไม่ต่างจากทางการพม่า พร้อมตั้งคำถามทำไมมาเลเซียอ้าแขนรับผู้อพยพมุสลิมที่หนีภัยสงครามจากบอสเนียและปาเลสไตน์ได้หน้าตาเฉย แต่กลับผลักไสชาวมุสลิมโรฮีนจากลับไปสู่ “ทุ่งสังหาร” ในพม่า

ซาฟาร์ อาหมัด อับดุล กานี ประธานของ Myanmar Ethnic Rohingya Human Rights Organisation Malaysia (Merhrom) ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮีนจาที่ใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดใจให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อดัง “มาเลย์ เมล์ ออนไลน์” โดยประณามรัฐบาลมาเลเซีย ว่า มีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างกับรัฐบาลเมียนมาร์ แม้แต่น้อยในการผลักไสผู้อพยพชาวโรฮีนจาไปสู่ “ความตาย”

ประธานองค์กร Merhrom ระบุว่า พฤติกรรมของทางการมาเลเซียในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมีทั้งการเนรเทศชาวโรฮีนจาที่ถูกจับกุมส่งกลับไปยัง “ทุ่งสังหาร” ในพม่า รวมถึงการใช้ “เรือรบ” สกัดกั้นเรือผู้อพยพโรฮีนจาในทุกรูปแบบไม่ให้ลอยลำเข้าสู่น่านน้ำมาเลเซีย ถือเป็นการแสดงออกถึงความไร้มนุษยธรรม ไม่ต่างจากสิ่งที่ทางการพม่าปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจา

ซาฟาร์ อาหมัด อับดุล กานี ซึ่งมีถิ่นพำนักในมาเลเซียมานานกว่า 23 ปี และมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ได้รับความคุ้มครองจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดรัฐบาลมาเลเซียถึงดำเนินนโยบายด้านผู้อพยพแบบสองมาตรฐาน โดยเฉพาะการที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศตัวอย่างออกนอกหน้าว่า ยินดีต้อนรับผู้อพยพชาวมุสลิมจาก “ปาเลสไตน์” และ “บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา” เข้าประเทศ แต่กลับปฏิเสธการลี้ภัยของชาวมุสลิมโรฮีนจาจากเมียนมาร์

“มันเป็นเรื่องที่ยากนักหรือที่รัฐบาลของคุณจะให้ความช่วยเหลือกับพวกเรา เพราะเหตุใดเล่ารัฐบาลของคุณถึงปฏิเสธที่จะปกป้องชาวโรฮีนจาและผลักไสพวกเขากลับไปยังทุ่งสังหารที่เมีพม่า” ประธานองค์กร Merhrom กล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้มาเลเซียใช้โอกาสที่ได้ดำรงตำแหน่ง “ประธานอาเซียน” ในขณะนี้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่เกิดสงครามกลางเมืองในอดีตยูโกสลาเวียในช่วงทศวรรษ 1990 รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศเปิดประเทศรับผู้อพยพชาวมุสลิมจากบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา เข้าประเทศ และยังนำงบประมาณแผ่นดินของตนมาจัดสรรจ่ายเป็นค่าเลี้ยงดูผู้อพยพชาวบอสเนียทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กเป็น “รายเดือน” คิดเป็นวงเงินต่อหัวระหว่าง “70-105 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน” อีกด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น