รอยเตอร์ - ไต้ฝุ่น “โนอึล” ซัดถล่มชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงพัดพาบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และมีประชาชนที่ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราวอีกประมาณ 3,000 คน
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้เริ่มอ่อนกำลังลงเล็กน้อยเมื่อขึ้นฝั่ง โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกราว 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันนี้ (11 พ.ค.) คาดว่าพายุจะเคลื่อนไปทางทิศเหนือด้วยความเร็วประมาณ 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมุ่งหน้าสู่ตอนใต้ของญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ (12)
ศูนย์เตือนความเสี่ยงพายุเขตร้อน (Tropical Storm Risk) ซึ่งมีฐานในอังกฤษ ได้ประกาศลดระดับโนอึลจากไต้ฝุ่นระดับ 5 ลงมาเหลือเพียงระดับ 4 ในวันนี้ (11)
ไต้ฝุ่นโนอึลเริ่มทำให้เกิดฝนตกเมื่อวานนี้ (10) ที่จังหวัดคากายัน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวและข้าวโพดที่อยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร แรงของพายุทำให้ต้นไม้หักโค่นและกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ล่าสุดศูนย์กลางพายุยังอยู่บริเวณเมืองอพาร์รีในจังหวัดแห่งนี้
“ไต้ฝุ่นกำลังเคลื่อนตัวห่างออกไปแล้ว แต่ปัญหาก็คือจะฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร บ้านเรือนเล็กๆ ของชาวบ้านแถบชายฝั่งได้รับความเสียหายมากทีเดียว” ดาร์วิน โทเบียส นายกเทศมนตรีเมือง ซานตา อนา ในจังหวัดคากายัน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อวิทยุ
สำนักงานภัยพิบัติเห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า พบชาย 2 คนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตขณะขึ้นไปซ่อมแซมหลังคาสังกะสีของบ้านหลังหนึ่ง ระหว่างที่ไต้ฝุ่นกำลังพัดกระหน่ำในเมืองอพาร์รี
ชาวบ้านกว่า 3,400 คนในจังหวัดคากายันและอิซาเบลาต้องอพยพไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียน โรงยิมเนเซียม และศาลาว่าการเมืองซึ่งถูกดัดแปลงเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ก่อนที่ไต้ฝุ่นโนอึลจะพัดขึ้นฝั่ง
โทเบียสเผยว่า ผู้อพยพบางรายในเมืองของเขาเริ่มเดินทางกลับบ้านตั้งแต่เช้าวันนี้ (11) หลังจากที่ฝนหยุดตก
แม้ไต้ฝุ่นโนอึลจะสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน แต่ก็นำพาฝนมาช่วยหล่อเลี้ยงนาข้าวและไร่ข้าวโพดที่ผ่านความแห้งแล้งจากช่วงฤดูร้อน
“ฝนจากพายุโดดอง (ชื่อท้องถิ่นของโนอึล) ช่วยเหลือชาวนาของเราได้อย่างมาก” เจมส์ เจโรนิโท เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของจังหวัดอิซาเบลา ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดอันดับ 1 และแหล่งปลูกข้าวอันดับ 2 ของฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นปีละประมาณ 20 ลูก ซึ่งอานุภาพของพายุก็ดูจะรุนแรงขึ้นทุกปี
“ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเยี่ยน” ซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อปลายปี 2013 ทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 5 เมตร และทำให้มีชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตหรือสูญหายมากกว่า 8,000 คน