เอเอฟพี - ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ฮากูปิต” ทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันนี้ (4 ธ.ค.) ขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปหาฟิลิปปินส์ ประเทศที่เต็มไปด้วยคนยากจนและถูกคุกคามด้วยภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ได้ออกคำเตือนว่า ไต้ฝุ่น “ฮากูปิต” ที่มีกระแสลมหมุนใกล้จุดศูนย์กลางความเร็ว 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นขณะที่เคลื่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะถึงบริเวณหมู่เกาะทางตะวันออกของประเทศในวันเสาร์ (6 ธ.ค.)
“จงเตรียมพร้อมรับมือสำหรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น” ประธานาธิบดี เบนิโญ อาคีโน กล่าวต่อที่ประชุมรับมือภัยพิบัติ หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนว่าจะมีพายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่พัดถล่มทำลายบ้านเรือนผู้คนในประเทศของเขาอีกครั้ง
ทางการฟิลิปปินส์ ระบุว่า ไต้ฝุ่นฮากูปิตจะกระทบโดยตรงหรืออาจจะเฉียดผ่านหลายพื้นที่ซึ่งยังไม่ฟื้นตัวจากซูเปอร์ไต้ฝุนไห่เยี่ยน ที่ถูกบันทึกว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 7,350 ราย เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ตักโลบัน หนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน คือ บริเวณที่ถูกคาดหมายว่าไต้ฝุ่นฮากูปิตจะมาเยือน ชาวบ้านบางรายได้เริ่มทำการอพยพออกจากพื้นที่แถบชายฝั่ง ขณะเดียวกัน ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งก็เริ่มจะเห็นชั้นวางของที่ว่างเปล่าเมื่อมีคนจำนวนมากแห่กันไปซื้ออาหารและสิ่งของที่จำเป็น
“ฉันรอดจากไห่เยี่ยนมาได้ ฉันก็หวังว่าพระเจ้าจะช่วยคุ้มครองให้รอดจากไต้ฝุ่นฮากูปิตด้วยเช่นกัน” ฟลอเรนตินา อัซคาร์กา คุณยายวัย 94 ปี บอกกับเอเอฟพี ขณะที่เธอและสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด 8 คน กำลังเดินทางไปยังสนามกีฬาในตักโลบัน
อัซคาร์กา ซึ่งแก่ชราจนเดินเองไม่ไหวแล้ว ได้ตัดสินใจร่วมกับครอบครัวของเธอ ทิ้งบ้านไปหาที่หลบภัย โดยมีหม้อข้าวและถุงเสื้อผ้าติดตัวไปด้วย เช่นเดียวกับคนอื่นๆ อีกหลายร้อยคนที่มาหลบภัยในสนามกีฬาตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่
ตอนนี้ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฮากูปิตยังอยู่ห่างจากฟิลิปปินส์ประมาณ 800 กิโลเมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศก็ยังไม่สามารถระบุได้แบบชัดเจนว่าไต้ฝุ่นลูกนี้จะมาถึงเมื่อไหร่ ส่วนทางรัฐบาลก็ยังไม่ได้สั่งให้ทำการอพยพจำเป็นเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ออร์ลา ฟาแกน โฆษกของหน่วยงานด้านภัยพิบัติของยูเอ็น บอกกับเอเอฟพี ว่า จากการคาดการณ์เส้นทางเคลื่อนตัวของพายุลูกนี้ ฮากูปิตน่าจะส่งผลกระทบต่อผู้คนในพื้นที่ราวๆ 4.5 ล้านคน
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่ต้องผจญกับพายุเฉลี่ยแล้วปีละ 20 ลูก แถมในจำนวนนั้นยังมีหลายลูกที่มีความรุนแรง จนอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ถึงกระนั้น ในช่วงปีหลังๆ ประเทศที่มีประชากรราว 100 ล้านคนแห่งนี้ กลับต้องเจอกับพายุที่รุนแรงมากจนผิดปกติวิสัยจากที่เคยพบพาน ซึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างก็ออกมาเตือนว่าเหตุการณ์เหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ผู้คนกว่า 1,900 รายต้องเสียชีวิตและสูญหาย หลังจากที่ไต้ฝุ่นบุปผาได้ถล่มพื้นที่เกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ในเดือนธันวาคมปี 2012 นอกจากนี้ในเดือนธันวาคมปี 2011 ก็มีอีก 1,268 รายที่ต้องเสียชีวิต เมื่อพายุโซนร้อนวาชิได้ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของเกาะมินดาเนา
ทั้งนี้ ไห่เยี่ยน บุปผา และ วาชิ ถือเป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุด ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา