เอเจนซีส์ - ในเช้าวันอาทิตย์ (10 พ.ค.) ประธานาธิบดีคิวบา “ราอูล คาสโตร” จะมีโอกาสเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในกรุงวาติกัน หลังจากร่วมงานวันชัยชนะเหนือกองทัพนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในกรุงมอสโก รัสเซีย ในวันเสาร์ (9) ที่ผ่านมา
บีบีซี อังกฤษ รายงานวันนี้ (10) ว่า เมื่อไม่นานมานี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงทำหน้าที่เป็นกาวใจในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ และคิวบาที่ได้ประกาศเป็นศัตรูยาวนานกว่า 50 ปีสำเร็จ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคิวบา ราอูล คาสโตร ได้เยือนกรุงวาติกันในระหว่างทางบินกลับคิวบา หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมงานวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในกรุงมอสโก รวมไปถึงการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียให้ปรากฏต่อสายตาชาวโลก ซึ่งการมาเยือนของคาสโตรนั้นเพื่อจะเข้าเฝ้าโป๊ปฟรานซิสเพื่อแสดงความซาบซึ้งต่อพระองค์ที่เป็นตัวกลางในการสมานสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างคิวบาและสหรัฐฯ วิทยุวาติกันรายงาน
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ในปี 1996 อดีตสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเป็นประมุขคริสตจักรคาทอลิกพระองค์แรกที่ทรงอนุญาตให้อดีตประธานาธิบดีคิวบา ฟิเดล คาสโตร เข้าเฝ้าที่กรุงวาติกันในขณะนั้น
นอกจากนี้ พี่น้องคาสโตรยังได้เดินทางไปยังกรุงโรมในปี 1997 ซึ่งในขณะนั้น ราอูล คาสโตรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคิวบา และเตรียมการรับเสด็จการเยือนคิวบาครั้งแรกของโป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 ในกรุงฮาวานาในปีถัดมา
สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า วาติกันยังคงความสัมพันธ์อันดีกับฮาวานานับตั้งแต่มีการปฎิวัติและเปลี่ยนการปกครองคิวบาในปี 1959 และทางวาติกันยังได้เป็นตัวกลางจัดการพบปะลับระหว่างสหรัฐฯและคิวบาเพื่อเรื่มต้นการหันหน้ามาเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งการเจรจานั้นเกี่ยวพันโดยตรงกับโป๊ปฟรานซิส และเป็นผลทำให้ในปี 2014 สหรัฐฯประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรต่อคิวบา และอนุญาตให้ทั้งสองชาติติดต่อทางการค้าได้ตามปกติ โดยไม่สั่งห้ามให้เรือสินค้าสหรัฐฯมาจอดเทียบท่าที่กรุงฮาวานอีกต่อไป หลังจากที่ทางวอชิงตันได้เริ่มการคว่ำบาตรมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีคิวบา ฟิเดล คาสโตรทำการปฏิวัติเมื่อ 56 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ บีบีซียังชีว่า โป๊ปฟรานซิสที่เป็นชาวอาร์เจนตินาทรงรู้จักคิวบาเป็นอย่างดี และทรงได้เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับวาติกันและรัฐบาลคอมมิวนิสต์มาแล้ว
ทั้งนี้ สมเด็จพระตะปาปาฟรานซิสในวัย 78 พรรษาจะทรงเป็นผู้นำคริสตจักรคาทอลิกพระองค์ที่ 3 ถัดจากอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 และอดีตสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
