เอเอฟพี - กองกำลังพันธมิตรซาอุดีอาระเบียประกาศกร้าววานนี้ (7 พ.ค.) จะแก้แค้นกบฏฮูตีให้สาสม หลังฝ่ายกบฏเหิมเกริม “ข้ามเส้น” ยิงถล่มพลเรือนในเขตแดนซาอุฯ ซึ่งส่อแววจะทำให้แผนหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมที่กรุงริยาดเพิ่งเสนอไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเสี่ยงเป็นหมัน
กระสุนปืนครกที่กบฏฮูตีนิกายชีอะห์ยิงจากฝั่งเยเมนได้คร่าชีวิตพลเรือนซาอุฯ ไปหลายคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งนับเป็นการโจมตีพื้นที่ชุมชนของซาอุฯ ครั้งแรก หลังจากที่กองกำลังพันธมิตรเริ่มใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกกบฏในเยเมน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม
“สถานการณ์เวลานี้แตกต่างไปจากเดิม การเผชิญหน้าก็ไม่เหมือนเดิม และพวกเขาจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม” พลจัตวา อาเหม็ด อัล-อัสซิรี โฆษกกองกำลังพันธมิตรซาอุฯ แถลง
“ความปลอดภัยของซาอุดีอาระเบียคือสิ่งที่พันธมิตรและกองทัพซาอุฯ ให้ความสำคัญสูงสุด สิ่งที่พวกกบฏทำถือเป็นการข้ามเส้น”
อัสซิรีระบุด้วยว่า ปฏิบัติการตอบโต้นั้น “เริ่มขึ้นแล้ว” โดยจะมุ่งไปที่ “แกนนำกบฏฮูตี พื้นที่ชุมนุม สถานที่พำนักของผู้นำกบฏ รวมถึงผู้ที่วางยุทธศาสตร์ให้แก่กบฏ และปฏิบัติการของเราจะดำเนินไปอย่างไม่จำกัด”
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่กองกำลังพันธมิตรมุ่งโจมตีคือเมืองซาดา ทางตอนเหนือของเยเมน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของกบฏฮูตี
ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้กบฏฮูตีที่เชื่อกันว่ามีอิหร่านหนุนหลังอยู่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเป็นเวลา 5 วัน ตามที่ทางการซาอุฯ ได้เสนอไป
อเดล อัล-ญุเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ประกาศ “แผนหยุดยิงเป็นเวลา 5 วัน เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” ซึ่ง เคร์รี ชี้ว่าเป็น “โอกาสสำคัญ” ที่จะทำให้วิกฤตการณ์ในเยเมนผ่อนคลายลงได้
อย่างไรก็ดี อัล-ญุเบร์ ย้ำว่าแผนการนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อ “กบฏฮูตีและสมัครพรรคพวกรับปากจะปฏิบัติตาม และไม่ก่อความรุนแรงก้าวร้าว”
ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียนอกจากไม่สามารถหยุดการรุกคืบของกบฏฮูตีได้แล้ว ยังทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทุกวัน