เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยซาอุดีอาระเบียต่อกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนที่ถูกกบฏยึดครอง ถล่มคลังขีปนาวุธแห่งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) กระพือให้เกิดการระเบิดสนั่นหวั่นไหวหลายระลอก คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 25 ศพ บาดเจ็บเกือบ 400 คน ทำบ้านเรือนพังพินาศและก่อแรงสั่นสะเทือนไปจนถึงละแวกชุมชนที่อยู่ห่างออกไป
มีความกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้ หลังจากระเบิดจากเครื่องบินรบ 2 ลูกพุ่งชนคลังขีปนาวุธที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ทิ้งซากความเสียหายในพื้นที่ฟาจจ์ อัตตานของกรุงซานา เป็นทางยาวและพบเห็นกลุ่มควันสีดำทะมึนลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
รอยเตอร์อ้าง “ซาบา” สำนักข่าวแห่งรัฐที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏฮูตี รายงานว่า “จากข้อมูลเบื้องต้นหลังซาอุดีอาระเบียบจู่โจมด้วยระเบิดถล่มย่านฮัดดาและอัตตาน ในกรุงซานนาวันนี้ พบว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 398 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก”
ส่วนเอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวด้านการแพทย์ปรับเพิ่มจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มคลังขีปนาวุธ ในเมืองหลวงเยเมนของซาอุดีอาระเบีย จากเบื้องต้น 18 ศพเป็น 28 ศพ หลังการโจมตีทางอากาศ 2 ลูก ทำบ้านเรือนหลายหลังพังพินาศและละแวกชุมชนที่อยู่ห่างออกไปก็ยังรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายนี้เตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้ เนื่องจากมีจำนวนมากที่อาการสาหัส
พันธมิตรอาหรับสุหนี่ที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ที่เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกบฏชีอะห์ฮูตีเมื่อเดือนที่แล้ว ประกาศฟื้นฟูอำนาจแก่ประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ซึ่งหลบหนีไปยังริยาด หลังพวกนักรบรุกคืบประชิดเมืองเอเดน สถานที่หลบภัยของเขาทางภาคใต้ของประเทศ
ริยาดกล่าวหาอิหร่าน มหาอำนาจฝ่ายชีอะห์ของภูมิภาคนี้ ให้การสนับสนุนกบฏ ขณะที่เหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า เยเมนจะแตกเป็นเสี่ยง จากการกลายเป็นสมรภูมิของสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านซึ่งเป็นมหาอำนาจสุหนี่และชีอะห์ในตะวันออกกลาง
เหตุโจมตีกรุงซานาเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) จุดชนวนให้เกิดการระเบิดขึ้นหลายระลอกและส่งคลื่นช็อคไปทั่วเมือง ทำรถยนต์บุบบู้บี้ อาคารพังเสียหาย และเศษซากหักพังกระจัดกระจายเต็มท้องถนน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่ามีไฟลุกไหม้ที่คลังขีปนาวุธที่ถูกถล่มและสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้ๆ กัน โดยเปลวความร้อนสามารถสัมผัสได้จากระยะไกล นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นพลเรือนหลายคนค่อยๆ โผล่ออกมาจากซากบ้านเรือนของตนเอง บางคนก็ถือกระเป๋าสัมภาระและมีท่าทีตื่นตะลึงต่อขอบเขตความเสียหายด้านนอก
ยอดเขาดังกล่าวเป็นของกองพันขีปนาวุธของกองทหารพิทักษ์สาธารณรัฐ ซึ่งยังคงภักดีต่อประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าชักใยกบฏฮูตีในการสู้รบกับรัฐบาล
พันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียบอกว่า ได้โจมตีทางอากาศไปแล้วกว่า 2,000 เที่ยวนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ โดยตอนนี้สามารถกลับมาควบคุมน่านฟ้าของเยเมนได้อย่างสมบูรณ์และทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานของฝ่ายกบฏได้รับความเสียหาย อย่างไรก็๋ตามทางระหว่างการแถลงสรุปประจำวัน ทางโฆษกปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อเหตุระเบิดในกรุงซานาเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.)
สหประชาชาติเผยว่า ความขัดแย้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายร้อยศพและมีผู้บาดเจ็บหลายพันคน และกำลังมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรม โดยแม้มีเสียงเรียกร้องให้เจรจาสันติภาพ แต่ในวันจันทร์ (20 เม.ย.) รัฐบาลเยเมน ปฏิเสธข้อเสนอของอิหร่าน ที่แสดงความประสงค์ขอเป็นคนกลาง
“ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ที่มาจากอิหร่าน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะว่าอิหร่านเกี่ยวข้องในประเด็นเยเมน” ริยาด ยัสซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเยเมนกล่าว “ฮูตีและกองกำลังของซาเลห์ต้องถอนออกไปจากเมืองและหมู่บ้านทุกแห่งของเยเมน ในนั้นรวมถึงซานาและเอเดน และคืนซาดา (ป้อมปราการทางเหนือ) แก่พลเมือง และวางอาวุธ” เขาบอก “จากนั้นเราถึงค่อยพูดเรื่องเจรจาและทางออกทางการเมือง แต่ตอนนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจา”
รัฐบาลพลัดถิ่นมีกำลังใจมากขึ้นในวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) หลังจากเหล่าผู้บัญชาการทหารที่มีกำลังพลราว 25,000 นายในจังหวัดฮาดรามาวต์ จังหวัดที่มีขนาดใหญ่สุดของประเทศและมีพรมแดนติดกับซาอุดีอาระเบีย ออกมาแสดงความสนับสนุนนายฮาดีและความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของเขา อย่างไรก็ตาม นายอับดุลมาลิก อัล-ฮูตี แกนนำฝ่ายกบฏ ประกาศว่ากองกำลังของพวกเขาจะไม่ยอมจำนนอย่างแน่นอน