เจแปนไทม์ส - สื่อแดนปลาดิบรายงานในวันอังคาร (14 เม.ย.) คนไทยอาศัยข้อได้เปรียบสกุลเงินเยนอ่อนค่า และการผ่อนปรนข้อจำกัดวีซ่า หลั่งไหลเข้าไปยังญี่ปุ่น ในช่วง 3 วันของเทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพุธ (15 เม.ย.) แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะถูกจำกัดจากคำสั่งระงับเพิ่มเที่ยวบินจากปัญหามาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน
สำนักข่าวเจแปนไทม์สระบุว่า ความนิยมท่องเที่ยวญี่ปุ่นในหมู่ชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่รัฐบาลแดนปลาดิบได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทยในปี 2013 และยอดการเดินทางพุ่งกระฉูดหลายเท่าตัวระหว่างเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน
สื่อมวลชนแดนปลาดิบแห่งนี้อ้างข้อมูลขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น พบมีคนไทยเดินทางเยือนญี่ปุ่นในปี 2014 มากถึง 657,570 คน สูงขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้นถึงร้อยละ 45 แต่คำสั่งประกาศโดยสำนักงานการบินพลเรือนเมื่อเดือนที่แล้วที่ห้ามสายการบินต่างๆ ของไทยระงับเพิ่มเที่ยวบินมายังญี่ปุ่น ทำให้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงลิ่วดังที่คาดหมายไว้
คำสั่งระงับเพิ่มเที่ยวบินถูกประกาศออกมาหลังจากกรมการบินพลเรือนของไทยล้มเหลวในการตรวจสอบด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) นั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวไทยถูกแจ้งยกเลิกเที่ยวบินไปยังญี่ปุ่นช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาหน่วยงานการบินพลเรือนของแดนปลาดิบ ระงับคำสั่งห้ามดังกล่าวระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ บนเงื่อนไขเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเครื่องบินและตารางการบิน
ดังนั้น นักท่องเที่ยวไทยหลายแสนคนจึงได้เดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วงสงกรานต์ปีนี้ โดยมีวัดเซนโซจิ ในเขตอาซากุสะของกรุงโตเกียว เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในตอนเช้าวันอังคาร (14 เม.ย.) แม้มีฝนโปรยปรายลงมาก็ตาม เจแปนไทม์สรายงาน
“ฉันมาเที่ยวที่นี่ 7 วัน” ผู้หญิงไทยวัย 31 ปีที่ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทให้สัมภาษณ์กับเจแปนไทม์ส “ฉันมีวันหยุดยาวแค่ช่วงสงกรานต์กับปีใหม่ ดังนั้นฉันจึงมาญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้ญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกอันดับ 1 เพราะไม่ต้องขอวีซ่าอีกแล้ว คนไทยจึงเลือกมาที่นี่”
สตรีรายดังกล่าวบอกกับเจแปนไทม์สบอกต่อว่า “สินค้าบางยี่ห้อในญี่ปุ่นถูกกว่าในไทย อย่างเช่นเครื่องสำอาง คนไทยชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น อยากเห็นภูเขาไฟฟูจิและชอบวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นอย่างเช่นศาลเจ้าเมจิ แถมตอนนี้ตั๋วเครื่องบินยังถูกด้วย ดังนั้นคนไทยจึงเลือกเดินทางมาญี่ปุ่น”
รายงานของเจแปนไทม์สระบุว่า การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวชาวจีน ตกเป็นข่าวพาดหัวตามสื่อมวลชนต่างๆ เนื่องจากพวกเขาควักกระเป๋าจ่ายเงินอย่างเพลิดเพลินในช่วงวันหยุดตรุษจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจับจ่ายซื้อของต่างๆนานาไล่ตั้งแต่หม้อหุงข้าวไปจนถึงฝาปิดชักโครก คิดเป็นมูลค่าราวๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แม้การเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยวไทยในสัปดาห์นี้ จะไม่ช่วยให้ห้างค้าปลีกต่างๆคงทำยอดขายถล่มทลายเช่นนั้นในสัปดาห์นี้ แต่เจแปนไทม์สบอกว่าก็ยังคงสามารถรับรู้ได้ถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ด้วยนักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างอาศัยเงินเยนที่อ่อนค่า จับจ่ายซื้อของติดไม้ติดมือกลับไป
สื่อมวลชนแดนปลาดิบแห่งนี้ระบุว่า สามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวไทยทุกเพศทุกวัยที่วัดเซ็นโซจิ มีทั้งมาเป็นครอบครัว คู่รักและสะพายเป้ฉายเดี่ยว “เรามากัน 2 คน เรามาญี่ปุ่นเพื่อฮันนีมูน แต่หลายคนมาเป็นครอบครัว เพราะมันเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศ” นายภิญโญ วัย 32 ปี เจ้าบ่าวหมาดๆ ให้สัมภาษณ์กับเจแปนไทม์ส หลังถ่ายภาพภรรยายืนข้างต้นซากุระ
เขาบอกต่อว่า “เรามาที่นี่ 8 วัน ผมติดว่าตอนนี้ญี่ปุ่นได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก่อนคนไทยก็ชื่นชอบญี่ปุ่นอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้ค่าใช้จ่ายถูกลง เวลานี้คนไทยจำนวนมากสามารถเดินทางมายังญี่ปุ่นได้แล้ว และผมคิดว่าวีซาก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญเช่นกัน”