เอเอฟพี – ปรากฏการณ์วาฬหัวแตงโมราว 150 ตัวเกยตื้นที่ชายหาดจังหวัดอิบารากิ จุดกระแสข่าวลือในญี่ปุ่นว่าอาจเป็นสัญญาณเตือน “แผ่นดินไหวใหญ่” คล้ายกับเมื่อปี 2011 ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มชายฝั่งจนประชาชนสังเวยชีวิตไปเกือบ 19,000 คน
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่งอ้างถึงกรณีวาฬหัวแตงโม 50 ตัวว่ายมาเกยหาดที่ญี่ปุ่น ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 เพียง 6 วันเท่านั้น แม้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันความเกี่ยวข้องของทั้ง 2 เหตุการณ์ก็ตาม
นักวิทยาศาสตร์ได้นำซากวาฬจำนวนหนึ่งจากทั้งหมด 156 ตัวไปผ่าพิสูจน์วันนี้ (11 เม.ย.) แต่ยังระบุไม่ได้ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พวกมันพากันมาตายบนชายหาด 2 แห่งริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
“จากการตรวจซากไม่พบว่าพวกมันป่วยเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง แต่เราจะหาคำตอบให้ได้ว่าพวกมันตายเพราะอะไร” ทาดาสุ ยามาดะ นักวิจัยอาวุโสจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค
แม้จะปราศจากหลักฐานเชื่อมโยงทางวิทยาศาสตร์ และมีคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแล้วว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว แต่ชาวเน็ตจำนวนมากก็ยังไม่วายกังวล
“ครั้งต่อไปจะเกิดแล้วใช่ไหม? เตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวกันนะ” ผู้ใช้ทวิตเตอร์นาม maoeos40d ระบุ ส่วนอีกคนก็เขียนสั้นๆ ว่า “เราอาจจะเจอแผ่นดินไหวใหญ่อีกครั้งในวันที่ 12 เมษายนนี้”
แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2011 ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุการณ์วาฬเกยตื้นมาเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี 2011 วาฬนำร่องกว่า 100 ตัวก็หลงเข้ามาเกยชายหาดในพื้นที่ห่างไกลของนิวซีแลนด์ หลังจากนั้นเพียง 2 วันก็เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองไครสต์เชิร์ช
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นพยายามบรรเทาความหวาดกลัวของประชาชน และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดสัตว์ทะเลเหล่านี้จึงว่ายน้ำมาเกยหาดยกฝูง บางคนตั้งข้อสังเกตว่า วาฬสุขภาพดีอาจเข้ามาเกยตื้นเพราะพยายามช่วยเหลือตัวที่ป่วย หรือตามหาสมาชิกที่หลงฝูงออกมา บ้างก็ว่าภูมิประเทศบางจุดรบกวนสัญญาณโซนาร์ของวาฬ จึงทำให้พวกมันหลงทาง
เมื่อวาฬขึ้นมาเกยบนชายหาดแล้ว พวกมันจะเสี่ยงต่อการขาดน้ำและถูกแสงแดดแผดเผา จนกว่าหน่วยกู้ภัยจะอาศัยช่วงน้ำขึ้นดันเรือนร่างที่ใหญ่โตกลับลงไปในเขตน้ำลึกได้อีกครั้ง