เอเอฟพี – รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกคำสั่งวานนี้ (10 เม.ย.) ให้พนักงานในสังกัดกระทรวง รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และหน่วยปราบปรามยาเสพติด (ดีอีเอ) งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับ “โสเภณี” หลังมีข่าวอื้อฉาวว่าเจ้าหน้าที่อเมริกันไปร่วมปาร์ตีเซ็กซ์ซึ่งจัดโดยแก๊งค้ายาเสพติดในละตินอเมริกา
อีริค โฮลเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตือนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงให้หลีกเลี่ยงการจ้างโสเภณีมาหาความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่ นอกเวลางาน หรืออยู่ระหว่างลาพักก็ตาม
โฮลเดอร์ ชี้ว่า แม้การกระทำดังกล่าวอาจจะไม่ขัดต่อกฎหมายท้องถิ่น แต่ถือว่า “บั่นทอนภารกิจหลักของกระทรวง” เพราะอาจนำไปสู่การข่มขู่ แบล็กเมล์ หรือเข้าข่ายสนับสนุนการค้ามนุษย์ ดังนั้น ต่อให้ประเทศดังกล่าวมีกฎหมายรับรองการค้าเซ็กซ์ แต่ก็ “ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเรียกร้อง ซื้อหา หรือยอมรับการขายบริการทางเพศโดยเด็ดขาด”
บันทึกข้อความซึ่งลงวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. ถูกส่งไปยังพนักงานกระทรวงยุติธรรมกว่า 100,000 คน รวมถึงเอฟบีไอและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ที่ต้องร่วมมือกับรัฐบาลต่างชาติอยู่เป็นประจำ
เดือนที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยรายงานซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ดีอีเอกลุ่มหนึ่งได้ไปร่วมปาร์ตีเซ็กซ์และหลับนอนกับโสเภณีที่เครือข่ายค้ายาเสพติดท้องถิ่นจ้างมาบริการให้
รายงานฉบับนี้เกิดจากการสืบสวนขยายผลเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ซึ่งเจ้าหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกโสเภณีกว่า 20 คนเข้าไปหาความสุขกันในโรงแรมที่เมืองคาร์ตาเกนา ประเทศโคลอมเบีย ก่อนที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จะเดินทางไปถึงไม่นานนัก และแม้ผลการสอบสวนจะพบว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้มาตรการรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีหละหลวม แต่ก็นำความเสื่อมเสียครั้งใหญ่มาสู่องค์กร
โฮลเดอร์ เตือนสำทับว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงคนใดที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามมั่วโสเภณี จะมีโทษถึง “พักงาน หรือไล่ออก”