เอเอฟพี – ช่างภาพสงครามมือเก๋ารายหนึ่งประกาศกร้าวว่าจะต่อสู้กับรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่ได้รับหนังสือเดินทางที่ห้ามไม่ให้เขาเดินทางไปยังอิรักและซีเรียอย่างเจาะจง
ยูอิจิ ซูกิโมโตะ ซึ่งทำหน้าที่รายงานข่าวจากพื้นที่ขัดแย้งมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ได้ถูกยึดหนังสือเดินทางในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่เขาปฏิเสธคำร้องขอของรัฐบาลให้ล้มเลิกแผนการเดินทางไปยังค่ายผู้ลี้ภัยในซีเรีย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังซวนเซจากเหตุฆ่าตัดคอพลเมือง 2 คน คือ เคนจิ โกโต นักข่าวสงคราม และ ฮารุนะ ยูคาวะ เจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัย โดยฝีมือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย
ซูกิโมโตะ วัย 58 ปีได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่เมื่อวานนี้ (9) ซึ่งถูกประทับตราด้วยข้อความว่า “หนังสือเดินทางเล่นนี้มีผลแก่ทุกประเทศและดินแดน ยกเว้นอิรักและซีเรีย”
เขาบอกกับสื่อท้องถิ่นจากเมืองนิงาตะ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเขาอาศัยอยู่ ว่า “พิจารณาถึงสิ่งที่ผมทำในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผมไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิงว่า ผมจะถูกห้ามไม่ให้เดินทางไปยังอิรักและซีเรียและรายงานข่าวจากที่นั่น”
“ผมต้องการเรียกร้องขอหนังสือเดินทางปกติอย่างที่พลเมืองทั่วๆ ไปเขาได้กัน” เขากล่าว
การยึดหนังสือเดินทางของ ซูกิโมโตะครั้งดังกล่าว ซึ่งได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายญี่ปุ่นเพื่อปกป้องชีวิตของผู้ถือครอง เป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้นกับนักข่าว นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญสมัยใหม่ของญี่ปุ่นมีผลบังคับใช้เมื่อ 70 ปีที่แล้ว
ซูกิโมโตะ เผยว่า เขามีแผนที่จะไปเยือนเมืองโคบานี เมืองในซีเรียซึ่งอยู่ใกล้กับพรมแดนติดตุรกี พื้นที่ซึ่งกองกำลังชาวเคิร์ดได้ผลักดันกลุ่มติดอาวุธไอเอสออกไปแล้ว
แม้ว่ากรณีนี้จะเป็นการละเมิดเสรีภาพสื่ออย่างชัดเจน แต่ก็มีกระแสต่อต้านอยู่อย่างจำกัดในแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศที่สังคมแทบไม่มีความเห็นอกเห็นใจให้กับบุคคลที่ถูกมองว่าหาเรื่องใส่ตัวเลย