เอเจนซีส์ - ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียเปิดเผยในวันจันทร์ (6 เม.ย.) ว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุโจมตีกรุงกัวลาลัมเปอร์รวม 17 คนเมื่อวันอาทิตย์ (5) ที่ผ่านมา โดย 2 คนในจำนวนนี้เพิ่งเดินทางกลับจากซีเรีย
ทางการแดนเสือเหลือง ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยคุกคามจากขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ก่อสงครามนองเลือดในซีเรียและอิรัก
คอลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ทวิตเมื่อวันจันทร์ (6) ระบุว่า “ผู้ต้องสงสัย 17 คน วางแผนก่อการร้ายในกัวลาลัมเปอร์ 2 คนในจำนวนนี้เพิ่งกลับจากซีเรีย” ได้ถูกจับกุมในวันอาทิตย์ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติของผู้ต้องสงสัย หรือรายละเอียดของแผนการโจมตี อย่างไรก็ดี ตำรวจนายหนึ่งเผยว่า จะมีการแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนี้
นอกจากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียยังยืนยันผ่านสื่อว่า จะไม่ยอมให้มาเลเซียเป็นจุดผ่านหรือที่กบดานของกลุ่มก่อการร้าย
มาเลเซียนั้นเป็นประเทศอิสลามสายกลาง และทางการดำเนินการปราบปรามการก่อความรุนแรงอย่างเข้มงวด
กระนั้น ทางการกัวลาลัมเปอร์เตือนว่า พลเมืองมาเลเซียที่เดินทางไปร่วมรบกับพวกไอเอสในซีเรียและอิรัก อาจกลับบ้านพร้อมอุดมการณ์สุดโต่ง
ตำรวจแดนเสือเหลืองเผยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันกับกลุ่มไอเอส หรือฝักใฝ่กับนักรบญิฮัดหัวรุนแรงกลุ่มนี้ หรือพยายามเดินทางไปอิรักหรือซีเรีย เป็นจำนวนรวม 120 คน นอกจากนั้นยังระบุว่า มีชาวมาเลเซีย 67 คนเดินทางไปร่วมรบกับไอเอส และ 5 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตในการต่อสู้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ตำรวจมาเลเซียเผยว่า ได้ทำลายแผนก่อเหตุระเบิดผับ ดิสโก้เทค และโรงงานผลิตเบียร์คาร์ลสเบิร์ก และจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสาวกไอเอสได้กว่าสิบคน ต่อจากนั้นยังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยโยงใยกับผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ได้อีกหลายครั้ง
สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลแดนเสือเหลืองเสนอกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายใหม่ 2 ฉบับเพื่อรับมือภัยคุกคามนี้ โดยร่างกฎหมายใหม่นี้จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไม่มีกำหนดและโดยไม่ต้องไต่สวน รวมทั้งอนุญาตให้ระงับหรือเพิกถอนหนังสือเดินทางของพลเมืองมาเลเซียและต่างชาติที่ต้องสงสัยว่า มีส่วนร่วมหรือให้การสนับสนุนการก่อการร้าย
นอกจากนี้ยังเพิ่มบทลงโทษการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เป็นต้นว่าผู้ที่ได้รับการฝึกหรือคำแนะนำจากกลุ่มก่อการร้าย อาจถูกจำคุกเป็นเวลา 30 ปี
ทางด้านพรรคฝ่ายค้าน องค์กรทางด้านกฎหมาย กลุ่มฮิวแมน ไรต์ส วอตช์ และนักเคลื่อนไหวอื่นๆ พากันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกร่างกฎหมายใหม่ดังกล่าวที่รัฐสภาเตรียมจะเปิดอภิปรายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการลิดรอนเสรีภาพพลเมือง และอาจใช้บังหน้าเพื่อกดขี่ข่มเหงฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
มาเลเซียเคยมีกฎหมายความมั่นคงภายใน บังคับใช้อยู่หลายสิบปี โดยกฎหมายดังกล่าวอนุญาตให้ทางการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโดยไม่ต้องพิจารณาคดี และได้ถูกรัฐบาลมาเลเซียนำมาใช้กำราบฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองบ่อยครั้ง ทว่ารัฐบาลเพิ่งยกเลิกกฎหมายนี้ไปเมื่อปี 2012 หลังจากถูกประชาชนกดดันให้ดำเนินการปฏิรูปการเมือง
