รอยเตอร์/เอเจนซีส์- ตำรวจออสเตรเลียจับกุมชาย 2 คน เชื่อมโยงก่อการร้ายในวันพุธ (24 ธ.ค.) ที่ซิดนีย์ 8 วันหลังจากเกิดเหตุการเข้ายึดช็อกโกแลตคาเฟ Lindt ที่จบลงพร้อมกับตัวประกัน 2 คนเสียชีวิต รวมไปถึง มาน ฮารอน โมนิส มือปืนสัญชาติอิหร่านผู้ก่อเหตุ
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย “โทนี แอ็บบอตต์” ได้ออกมาเตือนในวันนี้ (23 ธ.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสามารถดักจับข้อมูลและพบว่าคนบางกลุ่มมีการพูดคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องก่อการร้าย หลังเกิดเหตุยึดคาเฟ่และจับตัวประกันในซิดนีย์ พร้อมทั้งบอกด้วยว่าอาจจะมีการโจมตีเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ ตำรวจซิดนีย์สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยคนแรก ซูเลย์มาน คาลิด (Sulayman Khalid) วัย 20ปี ในวันพุธ (24) ที่บ้านของเขา จากการที่คาลิดมีเอกสารเป็นจำนวนมากที่เชื่อมโยงกับแผนการก่อการร้ายในซิดนีย์ พร้อมทั้งอาวุธปืนไรเฟิล 1 กระบอก และปืนลูกซองอีก 2 กระบอก และผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 วัย 21 ปีฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาลห้ามไม่ให้ติดต่อกับผู้คน โดยผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 ฝ่าฝืนคำสั่งโดยการแอบโทรศัพท์ติดต่อกับมารดา และคนรู้จักผ่านทางโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์สาธารณะ โดยเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษชี้ว่าผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 ได้รับการปฏิเสธจากศาลที่จะให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า อาจจะเป็นภัยหากคนผู้นี้ถูกปล่อยตัว
ด้านคาลิด พบว่า จากเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของคาลิดชี้ถึงแผนการโจมตีเป้าหมายที่ทำการหน่วยงานภาครัฐออสเตรเลีย แต่ไม่ได้เจาะจงไปที่แอ็บบอตต์ ไมเคิล เฟแลน (Michael Phelan) รองผู้บัญชาการตำรวจส่วนกลางออสเตรเลียแถลงต่อสื่อ
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า คาลิดไม่ได้ยื่นขอประกันตัวในวันพุธ (24) แต่เป็นที่เข้าใจว่าเขาจะไม่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับการประกันตัวในกรณีนี้ และนับจนถึงขณะนี้คาลิดยังอยู่ภายในห้องขัง และมีกำหนดจะขึ้นศาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2015
ที่ผ่านมาออสเตรเลียร่วมมือสหรัฐฯ ในแผนการต่อต้านก่อการร้ายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ IS ในซีเรียและอิรัก และได้ประกาศให้มีการเตรียมพร้อมการเตือนภัยระดับสูงหลังถูกโจมตีจากผู้มีอุดมการณ์ร่วมกับกลุ่มอิสลามิสต์ และกลุ่มชาวออสเตรเลียที่เดินทางกลับมาจากสู้รบในตะวันออกกลาง
ออสเตรเลียได้ยกระดับการเตือนภัยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มีปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในซิดนีย์ และบริสเบน หลังจากที่มีพลเมืองของตนเองหลั่งไหลไปเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย รวมถึงพวกนักรบญิฮัดกลุ่มอื่นๆ
การเตือนภัย “ระดับสูง” ที่มีแนวโน้มว่าการโจมตีอาจเกิดขึ้นได้อีกนั้น คือระดับที่ใช้อยู่ในออสเตรเลียขณะนี้ ส่วนการเตือนภัยระดับ “สุดยอด” นั้นใช้ในกรณีที่การโจมตีกำลังจะเกิดขึ้นหรือได้เกิดไปแล้ว ทั้งนี้ ออสเตรเลียไม่ได้ระบุไว้อย่างเป็นทางการ ว่าเหตุการณ์ยึดคาเฟ่และจับตัวประกันนั้นเป็นการก่อการร้าย
นอกจากนี้ ตำรวจออสเตรเลียยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มาจนถึงขณะนี้สามารถจับกุมและตั้งข้อกล่าวหาไปกลุ่มที่เชื่อมโยงก่อการร้ายไปแล้ว 11 คนนับตั้งแต่เริมต้นออกกวาดล้างครั้งใหญ่ ไม่นานหลังจากประกาศเตือนภัยก่อการร้ายครั้งร้ายแรงเป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งต้องใช้ตำรวจจำนวนมากกว่า 800 นายในปฎิบัติการกวาดล้างในเดือนกันยายน 2014
และการจับกุมเกิดขึ้นหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้จับตามองกลุ่มต้องสงสัยที่มีสมาชิกราว 15-20 คน ที่ทางออสเตรเลียเชื่อว่ามีส่วนช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมสุหนี่ติดอาวุธ IS ผ่านทางทุน ส่งนักรบ ไปยังต่างแดน และวางแผนการก่อการร้าย ซึ่งในการกวาดล้างครั้งนั้นสามารถจับกุม 15 คน และ 1 คนถูกตั้งข้อกล่าวหา สื่ออังกฤษรายงาน
“แน่นอนว่าแนวคิดสุดโต่งพวกนี้เชื่อมกับกลุ่ม IS ที่อยู่นอกประเทศแน่นอน” เฟแลนกล่าวทิ้งท้าย
