เอเจนซีส์ - หลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายอัลเชบับแห่งโซมาเลียสร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วโลกด้วยการบุกราดยิงมหาวิทยาลัยการิสซา คอลเลจ (Garissa University College) ในตอนเช้ามืดวันพฤหัสบดี (2 เม.ย.) คร่าชีวิตไปถึง 148 คน ล่าสุดมีการปรากฏตัวผู้รอดชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้ หลังจากซินเทีย เชร็อตติช (Cynthia Cheroitich) นักศึกษาหญิงวัย 19 ปี สามารถรอดชีวิตการกราดยิงของนักรบญิฮัดอัลเชบับได้อย่างปาฏิหาริย์ด้วยการแอบหลบในตู้เสื้อผ้านานถึง 2 วัน ประทังชีวิตด้วยโลชั่นทาผิว และไม่ยอมออกมาเพราะสำคัญผิดว่ากลุ่มตำรวจคอมมานโดเคนยาที่บุกเข้าไปหลังจากปะทะกับคนร้ายนั้นเป็นพวกผู้ก่อการร้าย
เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (4) ว่า ร่างที่เน่าเปื่อยของกลุ่มก่อการร้ายอัลเชบับที่ถูกตำรวจคอมมานโดเคนยาสังหารในการปะทะหลังจากนักรบญิฮัดเหล่านี้ได้โจมตีมหาวิทยาลัยการิสซา คอลเลจ (Garissa University College) ในตอนเช้ามืดวันพฤหัสบดี (2) คร่าชีวิตไปถึง 148 คน ถูกขนด้วยรถปิกอัพจากห้องดับจิตของโรงพยาบาล และนำไปที่ลานกว้างของโรงเรียนประถมการิสซาในเคนยาที่มีประชาชนในพื้นที่จำนวนล้นหลามซึ่งมีญาติของผู้เสียชีวิตรวมอยู่ในนี้ด้วย ต่างมุงดูศพทั้ง 4 ที่เปลือยเปล่าที่ลานกว้างแห่งนี้ด้วยความสนใจ
เจ้าหน้าที่ต่างหวังว่าจะมีใครที่สามารถจดจำคนทั้งสี่ออกมาให้เบาะแสถึงชื่อและประวัติผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ได้
มูนา ฮาจิ (Muna Haji) หนึ่งในผู้ที่มุงดูร่างกลุ่มติดอาวุธ ได้ให้ความเห็นต่อสื่อหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ วอชิงตันโพสต์ว่า “ดิฉันอยากเห็นคนกลุ่มนี้ ดิฉันอยากแน่ใจว่าพวกเขาเสียชีวิตจริง เพราะคนเหล่านี้สังหารผู้บริสุทธิ์”
ความคืบหน้าของคดีก่อการร้ายอัลเชบับ ปรากฏว่ามีนักศึกษาหญิงวัย 19 ปี ซินเทีย เชร็อตติช (Cynthia Cheroitich) สามารถรอดตายอย่างปาฏิหาริย์หลังหลบในตู้เสื้อผ้านานถึง 2 วัน และประทังชีวิตด้วยโลชั่นทาผิว ซึ่งเธอได้ถูกช่วยหลังจากเหตุการณ์ร้ายได้จบลง แต่ทว่า เชร็อตติชที่ยังหลบอยู่ภายใต้กองเสื้อผ้าในตู้ ปฏิเสธที่จะออกมาหลังจากนั้นเพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บุกเข้ามาแท้จริงอาจจะยังเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่กราดยิงเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของเธอ
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในที่สุดนักศึกษาหญิงเคนยาวัย 19 ปียอมเปิดตู้ออกมาในที่สุด 50 ชั่วโมงหลังจากเหตุการณ์กราดยิงเกิดขึ้น อาจารย์คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ซึ่งเธอรู้จักสามารถเกลี่ยกล่อมเชร็อตติชสำเร็จ โดยชี้แจงว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นตำรวจไม่ใช่กลุ่มอัลเชบับ และทางตำรวจเคนยาได้แถลงเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ทางกองกำลังกำลังตรวจแต่ละตึก พวกเขาพบว่ามีเสียงรอดออกมาจากตู้เสื้อผ้า ซึ่งผู้รอดชีวิตหญิงหนึ่งเดียว เฝ้าเพียรถามด้วยความแน่ใจก่อนเปิดประตู้ตู้เสื้อผ้าว่ากลุ่มคนข้างนอกเป็นตำรวจเคนยาใช่หรือไม่
ภายหลังที่เชร็อตติชออกมาแล้ว เธอได้รับเครื่องดื่มนมก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ และได้รับการตรวจเช็กร่างกายและคำปรึกษาด้านจิตใจ
เดลีเมล์รายงานต่อว่า ในขณะที่ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งนี้ เหยื่ออัลเชบับเปิดเผยว่า เธอได้ตะโกนถามเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ด้านนอกว่า “ดิฉันจะทราบได้อย่างไรว่า พวกคุณคือตำรวจเคนยา” และเสริมว่า “ดิฉันได้แต่ภาวนาถึงพระผู้เป็นเจ้า” เชร็อตติช ชาวคริสเตียนในเคนยากล่าว
นอกจากนี้ ร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นสมาชิกญิฮัดอัลเชบับทั้ง 4 ถูกพบในวันศุกร์ (3) รวมไปถึงภาพที่เกิดเหตุภายในห้องเรียน ที่มีร่างผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดราว 12 คนอยู่ภายในนั้น
ด้าน โจเซฟ เอ็นไคส์เซอรี (Joseph Nkaissery) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเคนยาแถลงถึงคนร้ายทั้ง 4 ว่าได้ผูกระเบิดเข้ากับร่างของพวกเขาในขณะที่ถูกตำรวจเคนยายิง ส่งผลทำให้เกิดระเบิดเสียงดัง และเศษระเบิดกระจายทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณนั้น รวมไปถึงได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ซึ่งมีบางส่วนพยายามหนีกลับเข้าโซมาเลีย ซึ่งเป็นฐานของก่อการร้ายอัลเชบับ
โดยทั้ง 3 คนนั้นเกี่ยวพันกับนักการศาสนาอิสลาม โมฮาเมด มาฮามุด (Mohamed Mohamud) ที่เชื่อกันว่าเป็นวางแผนการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งมาฮามุดมีค่าหัวสูงถึง 145,000 ปอนด์
นอกจากนี้แหล่งข่าวความมั่นคงเคนยาเปิดเผยว่า ตัวประกันหลายสิบชีวิตได้รับการช่วยเหลือให้เป็นอิสระ และมือปืนทั้ง 4 ที่ใช้ปืน AK47 เป็นอาวุธถูกสังหาร