เอพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเมื่อวันพุธ (25 มี.ค.) จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแม้ข้อมูลชี้อุปสงค์เบาบาง ปัจจัยดังกล่าวก็ผลักให้ทองคำปิดบวกเช่นกัน ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งลงหนัก จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และไบโอเทค
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (25 มี.ค.) ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม เพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล เหนือกว่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้เกือบ 2 เท่า บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอภายในชาติผู้บริโภคยักษ์ใหญ่
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ดันให้น้ำมันปิดบวกในวันพุธ (25 มี.ค.) เป็นผลจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆที่แข็งค่ากว่า ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปอย่างชะลอตัว ยังผลักให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ (25 มี.ค.) ปิดบวกเช่นกัน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,197.00 ต่อออนซ์
ขณะเดียวกัน ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เติบโตแบบชะลอตัวของอเมริกา ประกอบกับแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และไบโอเทค ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (25 มี.ค.) ปิดลบอย่างหนัก
ดาวโจนส์ ลดลง 292.60 จุด (1.62 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,718.54 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 30.45 จุด (1.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,061.05 จุด แนสแดค ลดลง 118.21 จุด (2.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,876.52 จุด
ทั้ง 3 ดัชนีทรุดลงสู่แดนลบตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขาย ตามข่าวข่าวคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ร่วงลงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจยังคงมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะอุปสงค์โลกที่ซบเซา จากนั้นแรงขายทวีความหนักหน่วงยิ่งขึ้นในช่วงบ่าย โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทอวาโก เทคโนโลยีส์ และสกายเวิร์คส โซลูชันส์