รอยเตอร์/เอเอฟพี - กลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนระเบิดหมู่ถล่มมัสยิด 2 แห่งของมุสลิมชีอะห์ใจกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อวันศุกร์(20มี.ค.) คร่าชีวิตผู้คนอย่างต่ำ 126 ศพ เหตุความรุนแรงครั้งเลวร้ายซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความยุ่งเหยิงด้านการแย่งชิงอำนาจภายใน ขณะที่พวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีนองเลือดครั้งนี้
รอยเตอร์รายงานว่าคนร้าย 4 คนซึ่งคาดเข็มขัดระเบิด ลงมือโจมตีนักแสวงบุญทั้งในและนอกมัสยิด 2 แห่ง พร้อมอ้างแหล่งข่าวด้านการแพทย์ว่ามีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 50 คน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขยอดตายเป็น 87 และ 126 คนตามลำดับ
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่ามีมือระเบิด 3 คน โดยคนแรกโจมตีด้านในมัสยิดบาดร์ ทางใต้ของซานา เปิดทางให้คนที่ 2 กดชนวนถล่มนักแสวงบุญที่หลบหนีออกมาด้านนอก ส่วนมือระเบิดฆ่าตัวตายรายที่ 3 ดำเนินการโจมตีมัสยิดอัล-ฮาชาฮุช ทางเหนือของเมืองหลวง
ในส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น ทางเอเอฟพีอ้างคำสัมภาษณ์ของนายนาสวาน อัล-อาตับ สมาชิกคณะกรรมการปฏฺิบัติการของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่ามี 77 รายและบาดเจ็บสาหัส 30 คน แต่ไม่นานก็อ้างข้อมูลเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์คนหนึ่ง บอกว่ายอดเหยื่อพุ่งสูงถึง 142 ศพ
หลังจากเกิดเหตุไม่นานกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ออกมาอ้างผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ว่าเป็นผู้บงการเหตุโจมตีมัสยิด 2 แห่งซึ่งมีพวกนักรบชีอะห์'ฮูธิ'เข้าร่วมสวดมนต์ โดยในถ้อยของไอเอสสาขาซานา ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นที่รู้จัก เตือนว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
"พวกฮูธิ พวกนอกศาสนา ควรได้รู้ว่าทหารของรัฐอิสลามจะไม่หยุดพักจนกว่าจะถอนรากถอนโคนพวกเขาจนสิ้นซาก และทำลายแผนการของอิหร่านในเยเมน" ถ้อยแถลงจากไอเอส ซึ่งเป็นกลุ่มมิสลิสุหนี่หัวรุนแรงระบุ
เหตุนองเลือดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดถึงขีดสุดในเยเมน หลังจากก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เครื่องบินไม่ทราบฝ่ายทิ้งระเบิดลงพื้นที่ๆหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักของประธานาธิบดีอาเบด รับโบ มานซูร์ ฮาดี ในเมืองเอเดน แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลและผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเห็นปืนต่อต้านอากาศยานระดมยิงฝูงบินที่บินเหนือเขตที่พักของประธานาธิบดี
นับเป็น 2 วันติดแล้วที่มีเครื่องบินรบโจมตีบ้านพักของประธานาธิบดี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอัล-มาชีกในเมืองเอเดน ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างนายฮาดีกับกลุ่มมุสลิมชีอะห์ฮูธิ ซึ่งควบคุมกรุงซานา เมืองหลวงและเป็นพันธมิตรกับอดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์
เยเมนถูกฉีกขาดจากศึกแย่งชิงอำนาจระหว่างกบฏฮูธิที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและประธานาธิบดีฮาดี ที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติ และความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีฮาดี หลบหนีไปอยู่เมืองเอเดนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเล็ดลอดออกจากการถูกกลุ่มฮูธิกักบริเวณมานานกว่า 1 เดือนในซานา ทั้งนี้ เขากำลังพยายามรวบรวมอำนาจที่เมืองทางตอนใต้แห่งนี้ เพื่อต้านทานความทะเยอทะยานของพวกฮูธิที่ต้องการควบคุมทั่วทั้งประเทศเยเมน
