เอเจนซีส์-ประธานาธิบดีมะห์มุด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ยอมรับ แนวคิด “การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” ของทั้งรัฐยิวและรัฐปาเลสไตน์ ถือเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม และมิอาจกลายเป็นจริงได้ ตราบใดที่อิสราเอลยังมีผู้นำรัฐบาลที่มีจุดยืนแข็งกร้าวอย่าง “เบนจามิน เนทันยาฮู”
อับบาสให้สัมภาษณ์ที่เมืองรามัลเลาะห์หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในอิสราเอลที่ออกมาว่า นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวอย่างเบนจามิน เนทันยาฮูเป็นฝ่ายคว้าชัยและได้กลับมาครองอำนาจต่ออีกสมัย โดยผู้นำปาเลสไตน์ระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การนำของเนทันยาฮู จะไม่มีทางให้การยอมรับต่อการอยู่ร่วมกันของรัฐยิวและรัฐปาเลสไตน์บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการเคารพใน “อธิปไตย” ของกันและกัน
อย่างไรก็ดี อับบาสย้ำว่าปาเลสไตน์จะยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อเรียกร้องให้มีการรับรองความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ในระดับนานาชาติผ่านช่องทางขององค์การสหประชาชาติและหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นๆ
“นี่คือสิทธิของเราชาวปาเลสไตน์ ในการที่จะก้าวเดินไปยังพื้นที่ต่างๆบนโลกใบนี้ และสร้างการยอมรับให้เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเป้าประสงค์หลักของเรา” ผู้นำปาเลสไตน์กล่าว
ท่าทีล่าสุดของผู้นำปาเลสไตน์มีขึ้นในจังหวะเวลาไล่เลี่ยกับที่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมาตอกย้ำเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐฯ ว่า อิสราเอลกับสหรัฐฯต่างเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ต่อกัน และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากร่วมมือกันเหมือนที่ผ่านมา
“เราสามารถเห็นต่างได้ แต่มีหลายสิ่งที่รวมเราเป็นหนึ่งเดียว เรามีสถานการณ์ที่อันตรายอย่างมากในตะวันออกกลาง และตอนนี้มันเป็นความท้าทายร่วมสำหรับเรา” ผู้นำอิสราเอลกล่าว
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐฯดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังนายเนทันยาฮูก่อความฉุนเฉียวแก่รัฐบาลโอบามา ด้วยการปราศรัยอย่างดุเดือดต่อสภาคองเกรสส์ ประณามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ขณะที่ในช่วงนาทีสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง เนทันยาฮูยืนยันว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศอีกสมัย เขาจะไม่มีวันยอมให้มีการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งถือเป็นการกลับลำแบบ 180 องศา และท้าทายนโยบายที่มีมาหลายทศวรรษของสหรัฐฯ