xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” ตั้งเงื่อนไขให้อิหร่าน “แช่แข็ง” กิจกรรมนิวเคลียร์อย่างน้อย 10 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ที่ห้องสมุดทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 2 มี.ค.
รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงจุดยืนเรื่องอิหร่านเพื่อบรรเทาความตึงเครียด ก่อนที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งประวัติศาสตร์ต่อสภาคองเกรสในวันนี้ (3 มี.ค.) โดยระบุว่าอิหร่านจะต้องยอม “แช่แข็ง” กิจกรรมนิวเคลียร์อย่างน้อย 10 ปีและเปิดโอกาสให้ตรวจสอบได้ จึงจะสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งในเวลานี้ยังมีความเป็นไปได้ “ไม่ถึง 50%”

ระหว่างให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (2) โอบามา พยายามลดการเผชิญหน้ากับผู้นำยิวที่มุ่งมั่นจะมาคัดค้านข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านแบบสุดลิ่มทิ่มประตู โดยชี้ว่าเป็นเพียง “สิ่งรบกวน” ที่ไม่เป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ในระยะยาวระหว่างสหรัฐฯ กับอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม โอบามา วิจารณ์จุดยืนของ เนทันยาฮู อย่างเผ็ดร้อน และยอมรับว่าตนกับผู้นำยิวมี “ความเห็นแตกต่างกันพอสมควร” เกี่ยวกับวิธีที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

การเจรจาระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจทั้ง 6 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของเตหะราน โดยแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้ เดินทางมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ก่อนจะถึงกำหนดเส้นตายปลายเดือนมีนาคมที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องบรรลุกรอบความตกลง และได้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน

ระยะเวลาแช่แข็งโครงการนิวเคลียร์อิหร่านถือเป็น “เส้นแดง” ที่ชัดเจนที่สุดที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศ เพื่อเป็นเงื่อนไขของการบรรลุข้อตกลง

“ถ้าอิหร่านยอมคงกิจกรรมนิวเคลียร์ของพวกเขาเอาไว้เท่าระดับปัจจุบันเป็นจำนวนปีเท่ากับเลข 2 หลัก หรือลดทอนสิ่งที่มีอยู่ลง... ถ้าพวกเขาตกลงตามนี้ และเรามีวิธีพิสูจน์ได้ ก็คงไม่มีแนวทางอื่นที่จะรับรองได้มากไปกว่านี้ว่าอิหร่านจะไม่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์” โอบามา ระบุในการให้สัมภาษณ์ ซึ่งถูกจัดให้มีขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่ผู้นำอิสราเอลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส

สหรัฐฯ ต้องการมั่นใจว่า “หากอิหร่านคิดจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เราจะมีเวลารู้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปีก่อนที่พวกเขาจะทำสำเร็จ”

โอบามา พยายามปกป้องข้อตกลงที่อาจจะเกิดขึ้น หลังมีคนบางกลุ่มวิจารณ์ว่ารัฐบาลของเขากระเหี้ยนกระหือรือที่จะบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านมากเกินไป จนอาจเปิดช่องให้อิหร่านกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์ในที่สุด
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล กล่าวปาฐกถาในการประชุมนโยบายของคณะกรรมการกิจการสาธารณะแห่งสหรัฐฯ-อิสราเอล (AIPAC) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่า วอชิงตันกำลังหารือข้อตกลงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งจะควบคุมกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างเข้มงวดในช่วงแรกๆ ก่อนจะผ่อนคลายข้อจำกัดลงทีละน้อย จนอิหร่านสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ในช่วงปีท้ายๆ

โอบามา ยังตำหนิ ส.ว. รีพับลิกันและแม้กระทั่ง ส.ว. เดโมแครตบางคนที่ขู่จะคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน โดยเตือนว่าคำขู่เช่นนี้อาจบั่นทอนการเจรจาที่ยังอยู่ในขั้นเปราะบาง

“ว่ากันตรงๆ ผมห่วงเรื่องการปาฐกถาของนายกรัฐมนตรี เนทันยาฮู น้อยกว่าท่าทีของสภาคองเกรสที่อาจบั่นทอนการเจรจานิวเคลียร์ก่อนที่มันจะสำเร็จ”

โอบามา ยอมรับด้วยว่า แม้การเจรจากับอิหร่านจะได้ผลคืบหน้าอยู่บ้าง แต่ตนมองว่าโอกาสสำเร็จยังมีไม่ถึง 50% เท่าๆ กับที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้

“ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่อิหร่านจะไม่ตกลง... พูดกันอย่างยุติธรรมแล้ว พวกเขามีความจริงใจที่จะเจรจา แต่พวกเขาก็มีเรื่องการเมืองในประเทศที่ต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ดี เวลานี้โอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงมีมากกว่าเมื่อ 3-5 เดือนก่อน” โอบามา กล่าว

อิสราเอลนั้นเกรงว่านโยบายประนีประนอมทางการทูตของ โอบามา จะกลายเป็นโอกาสให้เตหะรานลักลอบผลิตระเบิดนิวเคลียร์ แม้อิหร่านจะปฏิเสธว่าไม่เคยคิดครอบครองอาวุธทำลายล้างสูงก็ตาม

เนทันยาฮู ยังติเตียนมหาอำนาจ P5+1 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส บวกเยอรมนี ว่ากำลังลืมคำมั่นสัญญาที่จะไม่ยอมให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมชี้ว่าหากอิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จจะเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อรัฐยิว

กำลังโหลดความคิดเห็น