รอยเตอร์ – เจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษจะทรงลาออกจากกองทัพหลังผ่านประสบการณ์รับใช้ชาติมานานถึง 10 ปี ซึ่งรวมถึงการเสด็จฯ ไปปฏิบัติภารกิจนักบินเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ในสมรภูมิอัฟกานิสถานถึง 2 ครั้ง
พระราชนัดดาวัย 30 พรรษาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตรัสว่า พระองต์ตัดสินพระทัยที่จะลาออกจากกองทัพอังกฤษในเดือนมิถุนายนนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยงานกองทัพออสเตรเลียนาน 4 สัปดาห์
“ประสบการณ์ที่ได้รับมาตลอด 10 ปีจะคงอยู่กับข้าพเจ้าไปตลอดชีวิต และข้าพเจ้าจะรู้สึกซาบซึ้งตลอดไป” เจ้าชายแฮร์รีตรัส และทรงยอมรับว่า เป็น “การตัดสินใจที่ยากลำบากยิ่ง” สำหรับพระองค์
“ข้าพเจ้ากำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ สำหรับอนาคต ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นว่ามันจะเป็นไปอย่างไรได้บ้าง”
เจ้าชายแฮร์รี หรือ “นาวาอากาศเอก แฮร์รี เวลส์” ทรงเริ่มเข้าศึกษาที่วิทยาลัยทหารแซนด์เฮิร์ตสเมื่อปี 2005 และเสด็จฯ ไปประจำการที่อัฟกานิสถานครั้งแรกในช่วงปลายปี 2007 จากนั้นจึงทรงเข้ารับการฝึกเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่
เจ้าชายทรงปฏิบัติภารกิจนักบินในอัฟกานิสถานเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างเดือนกันยายนปี 2012 - มกราคม ปี 2013 หลังจากนั้นจึงทรงผันตัวจากภารกิจแนวหน้ามาสู่งานในสำนักงานเมื่อปีที่แล้ว
เจ้าชายแฮร์รีทรงเริ่มปฏิบัติพระกรณียกิจด้านสังคมมากขึ้น เช่นเดียวกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าชายวิลเลียม เพื่อเป็นการแบ่งเบาพระราชภาระของสมเด็จพระราชินีนาถ ซึ่งทรงมีพระชนมายุล่วงเข้า 88 พรรษาแล้ว
การรับราชการทหารมีส่วนทำให้กระแสนิยมเจ้าชายแฮร์รีในอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น จากเมื่อก่อนนี้ที่ทรงถูกมองเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แม้ว่าเมื่อปี 2012 จะมีภาพหลุดขณะทรงเปลือยในงานปาร์ตี และเล่นบิลเลียดอยู่ในห้องส่วนตัวที่นครลาสเวกัสมาเรียกเสียงวิจารณ์บ้างก็ตาม
สำนักงานในพระองค์แถลงว่า เจ้าชายแฮร์รีซึ่งจะทรงเลื่อนมาเป็นรัชทายาทลำดับที่ 5 โดยอัตโนมัติหลังทายาทพระองค์ที่ 2 ของเจ้าชายวิลเลียมประสูติในปีนี้ จะทรงทำงานอาสาสมัครภาคฤดูร้อนเพื่อเรียนรู้งานด้านการอนุรักษ์ในภูมิภาคแอฟริกาใต้ซาฮารา หลังจากนั้นจะทรงกลับมาช่วยงานโครงการฟื้นฟู (Recovery Ability Programme) ของกระทรวงกลาโหมบ้างเป็นครั้งคราว ระหว่างที่ทรงพิจารณางานประจำที่เหมาะสม แต่ถึงกระนั้นก็จะทรงมีส่วนร่วมในมหกรรมกีฬานานาชาติ Invictus Games เพื่อช่วยเหลือทหารผ่านศึกต่อไปเช่นเดิม
“ผมรู้สึกยินดีที่เจ้าชายแฮร์รีจะทรงมีบทบาทใหม่ในการช่วยเหลือทหารชายและหญิงที่บาดเจ็บจากการสู้รบ หลังจากที่ทรงกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงพลเรือนเป็นครั้งแรกในปลายปีนี้” พล.อ. นิโคลัส คาร์เตอร์ ประธานเสนาธิการทหารอังกฤษ ระบุ