เอเอฟพี - อินโดนีเซียในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ปฏิเสธข้อเสนอของออสเตรเลียที่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของ 2 นักโทษคดียาเสพติดตลอดระยะเวลาที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต หากยอมเว้นโทษตายแก่ทั้งสอง แต่ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลงทัณฑ์ด้วยการยิงเป้าพวกเขาเร็ววันนี้
จูเลีย บิชอบ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ยื่นข้อเสนอในหนังสือที่ส่งถึงเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่แคนเบอร์รา สำรวจหาทุกวิถีทางสำหรับโน้มน้าวจาการ์ตา ล้มเลิกการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และมยูรัน สุกุมารัน 2 นักโทษแดนจิงโจ้
ชาน และ สุกุมารัน อยู่ในกลุ่มนักโทษหลายคนที่จะถูกยิงเป้าในเรือนจำความมั่นคงสูงบนเกาะนูซากัมบังงันของอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้นี้ในฐานความผิดก่ออาชญากรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเกือบทั้งหมดเป็นนักโทษชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตามสำนักงานอัยการยืนยันในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ว่าพวกเขาจะยึดตามแผนเดิมคือประหารชีวิตนักโทษทุกคนพร้อมกัน นั่นหมายความว่าคงต้องเลื่อนเวลาการลงทัณฑ์ออกไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องรอให้การยื่นอุทธรณ์ทางกฎหมายของหลายคนเสร็จสมบูรณ์ก่อน
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม บิชอบ เสนอแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับ มาร์ซูดี แต่ถูกปฏิเสธ และล่าสุดในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) เธอก็ส่งหนังสือยื่นข้อเสนอ ออสเตรเลียขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของ 2 นักโทษคดียาเสพติด ตลอดระยะเวลาที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต
“อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า รัฐบาลออสเตรเลียพร้อมที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจำคุกคุณชาน และคุณสุกุมารัน ไปตลอดชีวิต หากอินโดนีเซียไม่ยินดีแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ” จดหมายที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศแดนจิงโจ้ระบุ “ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่สนับสนุนความพยายามของเราที่จะขอลดหย่อนโทษให้แก่คุณชาน และคุณสุกุมารัน เราไม่ปรารถนาให้การประหารชีวิตพวกเขามาบั่นทอนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น (ระหว่างออสเตรเลียกับอินโดนีเซีย)”
กระนั้นก็ดีทางโฆษกกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า ข้อเสนอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของการต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตของ 2 ผู้ต้องขัง ถูกปฏิเสธเช่นกัน “โทษประหารชีวิตถูกพิพากษาโดยศาล” เขากล่าว “มันไม่ใช่การเจรจาต่อรอง มีการตัดสินใจทางกฎหมายแล้ว”
โฆษกรายนี้ระบุด้วยว่า จาการ์ตารู้สึกผิดหวังที่รายละเอียดของการสื่อสารระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของ 2 ชาติ ถูกปล่อยรั่วไหลโดยฝั่งแคนเบอร์รา โดยชี้ว่าตามบรรทัดฐานทางการทูตแล้ว “เราจะไม่สื่อสารหรือเจรจาผ่านสื่อมวลชน”
แอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน หัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด “บาหลีไนน์” ถูกศาลอินโดนีเซียพิพากษาประหารชีวิตในปี 2006 ฐานพยายามขนเฮโรอีนออกจากเกาะบาหลี และเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งถูกปฏิเสธคำร้องขออภัยโทษจากโจโค วิโดโดประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ความหวังสุดท้ายที่จะรอดพ้นจากถูกยิงเป้า และถูกพาตัวไปยังเกาะนูซากัมบังงัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของแดนประหารแล้ว
ทนายความของ ชาน และ สุกุมารัน ได้ยื่นคัดค้านการปฏิเสธลดหย่อนโทษของประธานาธิบดี วิโดโด โดยชี้ว่าผู้นำอิเหนาไม่ได้คำนึงถึงกระบวนการบำบัดพฤติกรรมที่นักโทษทั้ง 2 คนได้รับขณะอยู่ในเรือนจำ และปฏิเสธคำขอบรรเทาโทษอย่างไม่มีเหตุผล
ศาลปกครองของจาการ์ตาในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ได้เลื่อนการพิจารณาคำร้องดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 19 มีนาคม หลังจากเอกสารที่คณะทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาลยื่นมานั้นยังไม่สมบูรณ์
เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยืนกรานมาตลอดว่าการปฏิเสธอภัยโทษของประธานาธิบดีคือโอกาสสุดท้ายที่จะรอดโทษประหารขอนักโทษทั้งสองและพวกเขาจะเดินหน้าโดยไม่สนความพยายามทางกฎหมายใดๆ อีก อย่างไรก็ตาม หลังมีเสียงคร่ำครวญมาจากนานาชาติ ท่าทีของพวกเขาก็อ่อนลงไปและบ่งชี้ว่าจะรอจนว่าการยื่นอุทธรณ์ต่างๆจะได้บทสรุป
ประเด็นการประหารชีวิตนักโทษยาเสพติดพลเมืองออสเตรเลียของอินโดนีเซียนี้ ได้ลุกลามบานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองชาติ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย ออกมาทวงบุญคุณต่อกรณีเคยบริจาคเงินช่วยเหลือนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามหลังเกิดเกิดภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 220,000 คน
คำพูดของเขามีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้จาการ์ตายุติการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน แต่ความพยายามดังกล่าวกลับส่งผลตรงกันข้าม และเป็นเหตุให้เกิดกระแสความขุ่นเคืองอย่างมโหฬารขึ้นในแดนอิเหนา ที่ซึ่งผู้ประท้วงหลายกลุ่มเริ่มการรณรงค์รวบรวมเหรียญเพื่อจ่ายคืนแคนเบอร์รา และเมื่อวันอังคาร (10 มี.ค.) กลุ่มผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียได้ส่งถุงบรรจุเหรียญให้แก่สถานทูตออสเตรเลีย ระบุว่าเป็นการคืนเงินช่วยเหลือในช่วงเผชิญมหันตภัยร้ายแรง
นอกจากนี้แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเพื่อการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซียออกมาเตือนว่า “คลื่นสึนามิ” ผู้แสวงหาที่พักพิงอาจถูกปล่อยเข้าออสเตรเลียเพื่อเป็นการตอบโต้ หากแคนเบอร์รายังไม่เลิกทวงบุญคุณขอการลดหย่อนผ่อนโทษให้นักโทษประหารคดีค้ายาเสพติด 2 รายดังกล่าว
