รอยเตอร์ – เยนส์ สตูลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวในวันนี้ (11) ว่า รัสเซียยังคงติดอาวุธและฝึกฝนกองกำลังกบฏในภาคตะวันออกของยูเครนอยู่ พร้อมเรียกร้องให้สองฝ่ายคู่สงครามช่วยเหลือทีมสังเกตการณ์ต่างชาติส่งเสริมข้อตกลงหยุดยิง
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของนักการทูตสหรัฐฯ คนหนึ่งที่ว่า รถถังรัสเซียได้ข้ามเข้าสู่ยูเครนเมื่อไม่กี่วันมานี้ เขาปฏิเสธที่แสดงความคิดเห็นอย่างเจาะจงในเรื่องนั้น แต่ได้กล่าวในที่แถลงข่าวว่า “เรายังคงเห็นการแสดงกำลังพร้อมรบของรัสเซีย และการสนับสนุนที่มีให้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอย่างแข็งขันในภาคตะวันออกของยูเครน เราเห็นการส่งมอบยุทโธปกรณ์ , กำลัง , การฝึกซ้อม และเห็นรัสเซียยังอยู่ในภาคตะวันออกของยูเครน”
“ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทั้งหมดจากภาคตะวันออกของยูเครน และเคารพข้อตกลงกรุงมินสก์”
เมื่อวานนี้ (10) วิคตอเรีย นูแลนด์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกในการไต่สวนของรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า รถถังและปืนใหญ่ของรัสเซียได้ข้ามเข้าไปยังภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่ได้รับการลงนามในกรุงมินสก์เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์
สตูลเทนเบิร์ก และ พล.อ.ฟิลลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการนาโต บอกกับผู้สื่อข่าวที่กองบัญชาการของกลุ่มในเบลเยียมว่า สิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขาในยูเครน ณ ตอนนี้คือการเฝ้าดูทีมตรวจสอบจากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ให้ได้รับความปลอดภัย , การเข้าถึงอย่างอิสระ และข้อมูลอย่างครอบคลุม ที่พวกเขาจำเป็นต้องมีเพื่อส่งเสริมข้อตกลงหยุดยิง”
บรีดเลิฟ กล่าวว่า นาโตไม่อาจพูดได้ว่า จำนวนของกำลังคนและอาวุธได้เปลี่ยนไปจากการประเมินก่อนการหยุดยิงแล้วหรือไม่ เนื่องด้วยความยกลำบากในการเคลื่อนไหวตรวจสอบ เขากล่าวว่า มันเป็นเรื่องดีที่กำลังคนและยุทโธปกรณ์ได้ถูกถอนกลับจากแนวหน้าแล้ว “แต่เรายังไม่แน่ใจว่าทั้งสองสิ่งนี้ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ไหน”
รัฐบาลยูเครน ระบุว่า กลุ่มกบฏกำลังรวบรวมอาวุธยุทธภัณฑ์ไปไว้ที่คลังสรรพาวุธใกล้กับเมืองสำคัญทางภาคตะวันออกอย่างโดเนตสก์
สตูลเทนเบิร์ก กล่าวว่า เขาเป็นกังวลว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไม่ได้ถูกเฝ้าตรวจสอบอาจถูกนำไปไว้ที่ตำแหน่งใหม่เพื่อเตรียมสำหรับการต่อสู้ในอนาคต
“สาสน์สำคัญของเราในวันนี้คือ โอเอสซีอีจำเป็นต้องมีสิทธิ์ในการเข้าถึง” เขากล่าว และเสริมต่อว่า “สิ่งที่เรากำลังร้องขอคือทั้งอิสระในการเคลื่อนไหวและให้พวกเขาได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น การตรวจสอบข้อตกลงหยุดยิงทุกวันนี้ไม่เพียงพอโดยสิ้นเชิง”