รอยเตอร์ - เหล่านักชิมในเทศกาลอาหารที่เมืองชาร์ลสตัน มลรัฐเซาท์แคโรไลนา ถึงกับผงะไปตามๆ กัน หลังนำขวดไวน์เก่าแก่ที่เก็บได้จากซากเรือจม อายุ 150 ปี มาเปิดชิม แต่กลับเจอกลิ่นน้ำทะเลเจือด้วยกำมะถันและก๊าซโซลีนอวลอยู่เต็มปาก
ไวน์ขวดนี้ถูกเปิดชิมในเทศกาลไวน์และอาหารที่ใช้ชื่อว่า “From Deep Below: A Wine Event 150 Years in the Making”
คณะผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ได้เปิดจุกขวดและเทของเหลวออกมาชิมรสชาติ โดยมีผู้สนใจซื้อบัตรเข้าร่วมชมงานประมาณ 50 คน
“ผมเคยชิมไวน์ที่เก็บได้จากซากเรือจมมาก่อน... บางทีรสชาติมันก็เยี่ยมมากเลยล่ะ” พอล โรเบิร์ตส นักชิมไวน์ตัวยงคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์
หลายขวดอาจจะเป็นอย่างที่ โรเบิร์ตส ว่า... แต่ไม่ใช่สำหรับไวน์ขวดนี้
หลังจิบของเหลวสีเหลืองอมเทาขุ่นๆ ไปได้สักครู่ เหล่านักชิมก็สรุปว่า รสชาติของมันเหมือน “น้ำล้างปู” บวกก๊าซโซลีน น้ำทะเล น้ำส้มสายชู และมีกลิ่นมะนาวกับแอลกออฮอล์เจืออยู่อีกเล็กน้อย เรียกเสียงหัวเราะลั่นจากบรรดาผู้ชม
ผู้เชี่ยวชาญเดาว่ามันอาจจะเป็นไวน์สเปน เหล้าสปิริต หรือกระทั่งยาน้ำชนิดหนึ่ง แต่เมื่อจมอยู่ก้นมหาสมุทรนานถึง 150 ปี ของเหลวที่อยู่ภายในก็กลายเป็นน้ำทะเลไปเกือบหมด
ปิแอร์ หลุยส์ ทีสเซเดรอ นักเคมีไวน์จากมหาวิทยาลัยบอร์โดซ์ในฝรั่งเศส ซึ่งได้นำตัวอย่างของเหลวภายในขวดออกมาวิเคราะห์ เปิดเผยว่า “จมูก” (nose) หรือกลิ่นของมันคล้ายกับการบูร, น้ำนิ่ง, ไฮโดรคาร์บอน, ยางสน และกำมะถัน ปนๆ กัน และจากการวิเคราะห์องค์ประกอบพบว่ามันมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ 37%
ไวน์ขวดนี้เป็น 1 ใน 5 ขวดที่นักโบราณคดีใต้น้ำสามารถกู้ขึ้นมาจากซากเรือ แมรี-เซเลสเทีย ซึ่งอับปางเมื่อราวๆ 150 ปีก่อน ในยุคที่สหรัฐฯ กำลังเกิดสงครามกลางเมือง
ฟิลิปเป รูจา นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมและผู้ดูแลซากเรือจมของรัฐบาลเบอร์มิวดา เปิดเผยว่า เรือลำนี้มุ่งหน้าออกจากเบอร์มิวดาเมื่อปี ค.ศ. 1864 เพื่อนำเสบียงไปส่งให้แก่สมาพันธรัฐอเมริกา (The Confederate States) แต่ประสบอุบัติเหตุเกยหินปะการังและจมลงสู่ก้นทะเลในเวลาเพียง 6 นาที จนบัดนี้นักประวัติศาสตร์ยังคงถกเถียงกันว่าการอับปางของเรือ แมรี-เซเลสเทีย เป็นอุบัติเหตุ หรือว่าความจงใจ
