เอเจนซีส์ - บริษัท แมคโดนัลด์ สหรัฐฯ ประกาศว่าภายใน 2 ปีไก่ที่ใช้ภายในร้านทั่วสหรัฐฯ ร่วม 14,000 สาขาต้องปราศจากยาปฏิชีวนะในกระบวนการเลี้ยง หลังมีกระแสเกรงว่าผู้บริโภคที่บริโภคไก่ที่ได้รับยาปฏิชีวนะในระหว่างการเลี้ยงจะทำให้ประสิทธิภาพยาที่ผู้ป่วยใช้มีประสิทธิภาพลดลง
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (5 มี.ค.) ว่า แมคโดนัลด์อเมริกาต้องหาหนทางใหม่ในการมากระตุ้นยอดขายที่ลดลง เนื่องจากมีกระแสความกังวลถึงไก่ฉีดยาปฏิชีวนะที่นำมาปรุงในร้านทั่วอเมริการาว 14,000 สาขาอาจมีผลต่อผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ยาที่บริโภคซึ่งป่วยทานมีประสิทธิภาพในการรักษาลดลง
ทั้งนี้ พบว่าผู้ผลิตไก่เป็นจำนวนมากใช้ยาปฏิชีวนะในกระบวนการเลี้ยงเพื่อให้ไก่โตไวกว่าปกติ นอกจากนี้ยอดการขายแมคโดนัลด์ทั่วประเทศยังลดลงมากกว่าที่คาดไว้ถึง 1.8% หลังเกิดข่าวฉาวซัปพลายเออร์ของแมคโดนัลด์ในจีน และรวมไปถึงภาพลักษณ์ที่ตกต่ำหลังจากทางแมคโดนัลด์ต้องออกมาขอโทษอีกครั้งเมื่อลูกค้าแดนอาทิตย์อุทัยพบฟันมนุษย์ในเฟรนซ์ฟรายในปี 2014
ในแถลงการณ์ของมาริออน กรอซ (Marion Gross) รองประธานอาวุโสของซัปพลายเชนส์อเมริกาเหนือกล่าวว่า “ทางแมคโดนัลด์เชื่อว่าหากสัตว์ป่วยสมควรได้รับการดูแลรักษาตามความเหมาะสม และทางซัปพลายเออร์ของเราจะยังคงใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อทำการรักษาสัตว์ต่อไป แต่ทว่าเมื่อสัตว์ปีกเหล่านั้นหายป่วยหลังจากได้รับยาปฏิชีวนะแล้ว สัตว์ปีกที่ได้รับยาปฏิชีวนะจะไม่ถูกส่งมายังร้านแมคโดนัลด์เพื่อเป็นซัปพลายสำหรับประกอบอาหารในร้านต่อไป”
อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์อเมริกาชี้ว่า ไก่ที่ใช้ในร้านแมคโดนัลด์จะยังคงใช้ยาในกลุ่ม Ionophores ยาปฏิชีวนะที่ไม่ได้ใช้ในมนุษย์ซึ่งตัวยากลุ่มนี้จะทำให้สัตว์ปีกมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ทางแมคโดนัลด์จะเสนอเมนูสุขภาพให้ผู้บริโภคชาวอเมริกัน รวมไปถึงนมไขมันต่ำ และนมรสช็อกโกแลตปราศจากไขมัน ที่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองได้มาจากวัวที่ถูกเลี้ยงโดยปราศจาก rbST ซึ่งเป็นโฮโมนเร่งการเติบโต
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาจากที่มีกลุ่มผู้บริโภคอเมริกันจำนวนเพิ่มมากขึ้นที่เรียกร้องต้องการอาหารที่มีกระบวนการผลิตตามธรรมชาติ
