"ฟูจิ" เผยเริ่มมีความหวังในการใช้ยา "เอวิแกน" รักษาผู้ติดเชื้ออีโบลา

เอเอฟพี - บริษัทญี่ปุ่นผู้อยู่เบื้องหลังการทดลองยา เอวิแกน ในการรักษาอีโบลา ระบุว่า พวกเขาพอจะมีความหวังให้กับผู้ติดเชื้อหลายพันคนในแอฟริกาตะวันตกแล้ว แต่ก็ยอมรับว่ายาตัวนี้ยังไม่ดีถึงขนาดเป็นยามหัศจรรย์ที่รักษาผู้ติดเชื้อได้ทุกราย

ในการแสดงความเห็นครั้งแรกต่อสื่อมวลชน นับตั้งแต่มีการทดลองใช้ยาดังกล่าวในทางการแพทย์ระยะแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บริหารของ "โทยามะ เคมิคอล" ซึ่งเป็นบริษัทยาในเครือฟูจิฟิล์ม ได้บอกว่า ผลที่ได้ในช่วงแรกออกมาดีและอาจนำไปสู่การทดลองในวงกว้างมากขึ้น

ข้อมูลผลการทดลองที่นำเสนอต่อที่ประชุมในสหรัฐฯ ระบุว่า "เอวิแกน" ยาที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น มีประสิทธิภาพบางอย่างในการรักษาชีวิตของผู้ติดเชื้ออีโบลา หากมีการจ่ายยาตัวนี้ให้ในช่วงแรกๆ ที่ติดเชื้อ แต่จะไม่ได้ผลหากได้รับช้าเกินไป

"พวกผู้ป่วยอาการดีขึ้นกว่าที่ผมคาดไว้ การได้รับยาตัวนี้ในช่วงระยะแรกของการติดเชื้อ ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด" ยูโซ โทดะ ผู้อำนวยการของฟูจิฟิล์มบอกกับนักข่าว

การทดสอบยาตัวนี้เริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ภายใต้การดำเนินการของ อินเซิร์ม สถาบันด้านสุขภาพและการวิจัยยาของฝรั่งเศส โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป

การทดลองทางการแพทย์ของยาตัวนี้ยังคงดำเนินการอยู่ในกินี จนถึงตอนนี้มีการทดสอบกับผู้ป่วยอีโบลาไปเพียงแค่ 80 รายเท่านั้น แต่ผลที่ได้ก็แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ได้รับยาในระยะแรกของการป่วย มีอัตราการเสียชีวิตแค่ 15 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับยาตอนที่อาการหนัก มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นผลการทดลองเบื้องต้นที่นำมาเสนอต่อที่ประชุม "รีโทรไวรัส แอนด์ ออพพอร์ทูนิสติก อินเฟคชั่น" ในซีแอตเทิล

กลุ่มเอ็นจีโอ "เมดิซิน ซาน ฟรอนเทียร์" (แพทย์ไร้พรมแดน) ซึ่งร่วมช่วยเหลือในการทดลอง ระบุว่า ดีใจที่ได้เห็นยาตัวนี้มีประสิทธิภาพในเชิงบวกต่อผู้ป่วยบางราย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ป่วยอาการหนักแล้ว ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตโดยที่ยาแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลย

โทดะและบรรดาเพื่อนร่วมงานของเขา ยอมรับว่า ยาตัวนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่ แต่ผลที่ได้ในเชิงบวกก็อาจถูกพูดถึงในหลายชุมชนที่อีโบลาระบาดหนัก ซึ่งอาจช่วยโน้มน้าวใจให้ผู้ป่วยยอมเข้าร่วมการทดสอบยาตัวนี้เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งหวังว่า องค์การอนามัยโลกจะเร่งขั้นตอนอนุมัติใช้ยา เอวิแกน ในการรับมือกับวิกฤติอีโบลา

"เราไม่ได้คาดว่ามันจะเป็นยามหัศจรรย์ที่ได้ผลกับผู้ป่วยทุกราย แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่ดี ผลที่ได้มันอาจจะไม่ใช่ความมหัศจรรย์ แต่เราก็พูดได้ว่ามันมหัศจรรย์มากที่เรามาได้ไกลขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ" ฮิโรชิ คิตากุชิ ผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โทยามะ เคมิคอล ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนายา เอวิแกน บอกกับนักข่าว

จากบริษัทที่เคยเป็นที่รู้จักจากธุรกิจฟิล์มและกล้อง "ฟูจิฟิล์ม" ได้หันมาซื้อกิจการบริษัทด้านสุขภาพตั้งแต่ช่วงเกือบทศวรรษที่แล้ว เพื่อเป็นการขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ หลังจากกระแสความต้องการของกล้องฟิล์มตกต่ำลง ซึ่งหนึ่งในบริษัทเหล่านั้นก็คือ "โทยามะ เคมิคอล" ที่พวกเขาซื้อมาเมื่อปี 2008