“มงต์บลองค์” จ่อขายปากกาทำจากไม้ “สนปาฏิหาริย์” ต้นเดียวที่รอดจาก “สึนามิ” ราคาด้ามละแสนสี่

เอเอฟพี - “มงต์บลองค์” แบรนด์ปากกาหรู มีแผนจะวางขายปากกาหมึกซึมทำด้วยไม้จากต้น “สนปาฏิหาริย์” ที่ยังคงอยู่รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติ “คลื่นยักษ์สึนามิ” เมื่อปี 2011 สนนราคาแพงระยับด้ามละ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.42 แสนบาท) โดยมงต์บลองค์จะมอบรายได้ร้อยละ 20 ให้แก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยสึนามิ

ข่าวนี้เปิดเผยออกมาในยามที่ญี่ปุ่นกำลังเตรียมจัดพิธีรำลึกครบรอบ 4 ปีเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มญี่ปุ่น และคร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 19,000 คน ทั้งยังทำให้ผู้คนเรือนหมื่นคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ตลอดจนสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของแดนอาทิตย์อุทัยจนประมาณมิได้

นอกจากนี้ โศกนาฏกรรมครั้งนั้นยังได้ชักนำให้เกิดภัยพิบัติปรมาณูครั้งเลวร้ายที่สุดในชั่วอายุคน จนประชาชนหลายหมื่นคนมีอันต้องอพยพหนีกัมมันตรังสี และจนถึงตอนนี้ คนจำนวนมากก็ยังคงพลัดจากบ้านเกิดเมืองนอน และบ่อยครั้งต้องพักพิงอยู่ตามบ้านพักชั่วคราวที่มีลักษณะไม่แน่นหนาถาวร

กิจการผู้ผลิตปากกา และนาฬิกาสวิสเจ้านี้ได้ใช้ไม้จากสนเพียงต้นเดียว ที่ยังตั้งตระหง่านเพียงลำพังบนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ที่ถูกสึนามิซัด ในขณะที่ป่าสนที่มีประชากร 70,000 ต้นพังราบเป็นหน้ากลอง

ทว่า สนต้นนี้ที่เรียกกันว่า “สนปาฏิหาริย์” (Miracle pine) ก็ยืนต้นตายในเวลาต่อมา โดยทางการแดนอาทิตย์อุทัยได้ทุ่มงบ 150 ล้านเยน (ราว 40.8 ล้านบาท) เพื่อสร้างโครงเหล็กค้ำยันให้สัญลักษณ์แห่งความหวัง ของผู้รอดชีวิตจากสึนามิต้นนี้ยังคงตั้งเด่นเป็นไฮไลต์ ที่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนพลาดไม่ได้

เมื่อเมืองนี้ตัดใจโค่นสนต้นนี้ลง นายกเทศมนตรี ฟูโตชิ โตบะ ก็ขอให้มงต์บลองค์ สาขาญี่ปุ่นใช้ไม้จากสนต้นนี้ทำปากกาเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ “ให้ประชาชนรำลึกถึงภัยพิบัติครั้งนั้น” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของเมืองกล่าว

เจ้าหน้าที่ระบุว่า มงต์บลองค์ได้ผลิตปากกาจากสนปาฏิหาริย์ทั้งหมด 113 ด้าม เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวันที่ 11 มีนาคม หรือวันที่เกิดสึนามิ โดยจะนำออกจำหน่ายด้ามละ 520,000 เยนในวันครบรอบ 4 ปีเหตุคลื่นยักษ์ซัดถล่ม และจะแบ่งเงินรายได้ 20 เปอร์เซ็นต์ให้แก่เมืองริคุเซนทากาตะ

โตบะกล่าวในการแถลงข่าววานนี้ (25) ว่า “สนต้นนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่มอบความหวังให้เราในยามที่รู้สึกท้อแท้จากภัยพิบัติ”

“ด้วยความช่วยเหลือจากมงต์บลองค์ เราหวังว่า คนทั่วโลกจะจดจำถึงภัยพิบัติครั้งนั้นได้”

โฆษกของมงต์บลองค์ สาขาญี่ปุ่นกล่าวว่า การที่ปากกาแต่ละด้ามมีราคาแพงถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อยังไม่รวมภาษีก็เพราะใช้วัตถุดิบหายาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตปากกาหมึกซึมจะไม่นิยมทำกัน