สหรัฐฯ เตือนพวกก่อการร้ายกำลังวางแผนโจมตีห้างหรูในจอร์แดน

เอเอฟพี - สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงอัมมานเตือนเมื่อวันพุธ (25 ก.พ.) ว่าได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่พวกก่อการร้ายจะลงมือโจมตีห้างสรรพสินค้าหรูในเมืองหลวงของจอร์แดน ไม่นานหลังจากพวกอัล-ชาบับ ปล่อยคลิปเรียกร้องชาวมุสลิมโจมตีห้างดังในดินแดนตะวันตก

สหรัฐฯ และชาติอื่นๆ กระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับภัยคุกคามของการโจมตีแบบ “หมาป่าโดดเดี่ยว” ซึ่งหมายถึงผู้ฝักใฝ่ลัทธิหัวรุนแรงที่พร้อมก่อการร้ายขึ้นมาในประเทศของตนเอง โดยไม่ได้มีการติดต่อประสานงานกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ หรือกับคนอื่นๆ

โดยเมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.พ.) เจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตือนให้บรรดานักชอปของหนึ่งในห้างยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ในรัฐมินนิโซตา เพิ่มความระแวดระวัง หลังจาก “อัล-ชาบับ” กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในโซมาเลีย ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับอัล-กออิดะห์ ปล่อยคลิปเรียกร้องชาวมุสลิมโจมตีห้างดังในอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และแคนาดา

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำจอร์แดนระบุว่า ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามที่มีต่อเหล่าห้างสรรพสินค้าหรูในกรุงอัมมาน คำขู่เหล่านี้ผ่านการวินิจฉัยแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือ แม้ช่วงเวลาและรูปแบบของภัยคุกคามยังไม่ทราบแน่ชัดก็ตาม

ทั้งนี้ สถานทูตอเมริกาเผยต่อว่ารัฐบาลจอร์แดนได้มีมาตรการต่างๆสำหรับยกระดับรักษาความปลอดภัยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวได้รับคำสั่งให้หลีกเลี่ยงสถานที่ต่างๆที่อาจตกเป็นเป้าหมายในมาตรการป้องกันไว้ก่อนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่พลเมืองสหรัฐฯคนอื่นๆก็ได้รับคำเตือนแบบเดียวกัน

ด้านโมฮัมหมัด อัล-โมมานี โฆษกของรัฐบาลบอกกับเอเอฟพีว่า จอร์แดนจะยังเดินหน้าใช้มาตรการด้านความมั่นคงเพื่อรับประกันความปลอดภัยของประชาชน

ในคลิปที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ (21) กลุ่มอัล-ชาบับ ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังการเข้ายึดห้างเวสต์เกตในไนโรบี เมืองหลวงของเคนยาเมื่อเดือนกันยายน 2013 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 ราย ยังขู่เล่นงานห้างเวสต์ เอ็ดมอนตัน มอลล์ของแคนาดา และย่านชอปปิ้งดังบนถนนออกซฟอร์ดของลอนดอน รวมทั้งห้างสองแห่งในฝรั่งเศสคือ เลอ ฟอรัม เดส์ ซาลส์ และเลส์ กาตร์ ตองป์

แม้พวกเจ้าหน้าที่ของคณะบริหารสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่มีคำขู่ที่เฉพาะเจาะจงและเชื่อถือได้ว่าจะมีการโจมตีในอเมริกา ทว่า หลังเกิดการโจมตีเมื่อไม่นานมานี้ทั้งในปารีส โคเปนเฮเกน และออตตาวาโดยกลุ่มหัวรุนแรงที่เป็นพลเมืองในประเทศนั้นๆ จึงกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเตรียมพร้อม และผลักดันให้วอชิงตันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วเพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามนี้