เอเอฟพี - สหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตของตนในเยเมนอย่างไม่มีกำหนด พร้อมทั้งอพยพเจ้าหน้าที่และครอบครัวของพวกเขาแล้ว เนื่องจากสภาวะความมั่นคงในประเทศนี้ที่ย่ำแย่ลงอย่างหนัก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (10 ก.พ.)
“ด้วยเหตุเพราะสถานการณ์ความมั่นคงที่เลวร้ายลงในกรุงซานา ในวันที่ 11 กุมภาพพันธ์ ปี 2015 กระทรวงการต่างประเทศจึงขอปิดทำการสถานทูตชั่วคราว และได้มีการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงซานาออกจากประเทศนี้แล้ว” คำเตือนสำหรับการเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศระบุ
“การให้บริการของสถานกงสุล ทั้งประจำและฉุกเฉินถูกระงับทั้งหมดจนกว่าจะมีประกาศใดๆ เพิ่มเติม” คำเตือนระบุเสริม
นอกจากนี้ คำเตือนฉบับนี้ยังเรียกร้องให้ชาวสหรัฐฯ เดินทางออกจากเยเมนด้วย
“ทางกระทรวงขอเรียกร้องให้พลเมืองสหรัฐฯ เลื่อนกำหนดการเดินทางไปเยเมน และให้พลเมืองสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเยเมนเดินทางออกจากที่นั่นในทันที” คำเตือนฉบับนี้เน้นย้ำโดยอ้างถึง “ภัยคุกคามความมั่นคงที่ระดับสูงในเยเมน เนื่องจากกิจกรรมและการก่อความไม่สงบของกลุ่มก่อการร้าย”
กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายชีอะห์ที่เข้ายึดอำนาจในกรุงซานาได้กล่าวเตือนวานนี้ (11) อย่าพยายามสร้างความปั่นป่วนในเยเมน ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาเป็นคนกลางในวันที่ 2 ของการเจรจามุ่งผ่าทางตันให้กับวิกฤตนี้
ประเทศนี้ไม่เคยมีเสถียรภาพนับตั้งแต่ อาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ประธานาธิบดีที่อยู่ในอำนาจมายาวนานก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อช่วงต้นปี 2012 ภายหลังการลุกฮือของประชาชนที่กินเวลานานนับปีและเป็นเหตุให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อมากมาย
วิกฤตที่ทำลายเสถียรภาพของเยเมนยังรวมถึงการสู้รบกับกลุ่มกบฏอัลกออิดะห์ และการเผชิญกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ของประเทศ
เรื่องราวต่างๆ ยิ่งเลวร้ายลงในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มติดอาวุธฮูธี ซึ่งกลัวว่าพวกตนจะถูกลดทอดความสำคัญจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ได้เข้ายึดควบคุมเมืองหลวงและเริ่มรุกลงไปทางตอนใต้เข้าสู่พื้นที่ของชาวมุสลิมสายชีอะห์
จามัล บีโนมาร์ ทูตยูเอ็นออกมาเตือนว่า ขณะนี้เยเมนอยู่บนทางแยก และเรียกร้องให้บรรดาผู้นำทางการเมือง “แสดงความรับผิดชอบและทำตามความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่” ขณะที่เขากำลังพยายามช่วยหาทางออกผ่านการเจรจา