รอยเตอร์ - กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ก่อเหตุลักพาตัวพลเรือนไม่ต่ำกว่า 90 คนไปจากหมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยชาวคริสต์อัสซีเรีย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่คอยแกะรอยเหตุรุนแรงในซีเรียระบุวันนี้ (24 ก.พ.)
องค์การ “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรต์ส” ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในอังกฤษ และมีจุดยืนเป็นปรปักษ์ต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียระบุว่า เมื่อช่วงรุ่งสางกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่กลุ่มนี้ได้เข้ารุกรานหมู่บ้านหลายแห่งในเขตชนบทอันเป็นชุมชนชาวคริสต์โบราณ ในขณะที่มีชาวบ้านบางส่วนสามารถหลบหนีออกมาได้ และอพยพไปทางทิศตะวันออกเพื่อมุ่งหน้าไปขอพักพิงที่เมืองฮัสซาเกห์ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาติพันธุ์เคิร์ด
เมื่อวันอาทิตย์ (22) หน่วยป้องกันประชาชนชาวเคิร์ด (วายพีจี) ในซีเรีย ได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มไอเอส 2 ระลอก ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยได้รับความสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐฯ และกองกำลังเปชเมอร์กาของชาวเคิร์ดในอิรัก ทำให้สามารถยึดครองหมู่บ้านชาวอาหรับหลายแห่งที่เคยตกอยู่ในความควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม
พื้นที่ส่วนนี้ของซีเรียถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับดินแดนที่อยู่ในความควบคุมของไอเอสในอิรัก และเป็นบริเวณซึ่งไอเอสเคยก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดีในปีที่แล้ว
ชาวคริสต์อัสซีเรียจำนวนมากต้องกลายเป็นผู้อพยพในช่วงเวลาเกือบ 4 ปีที่เกิดสงครามความขัดแย้งในซีเรีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 200,000 คนแล้ว ทั้งนี้ก่อนที่ชาวเคิร์ดและชนเผ่าเร่ร่อนชาวอาหรับจะเดินทางเข้ามาเมื่อช่วงสิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ชาวคริสต์คือชนส่วนใหญ่ในบริเวณที่เรียกกันว่า “ญะซีเราะห์” ของซีเรีย ซึ่งครอบคลุมถึงเมืองฮัสซาเกห์ด้วย
องค์การเฝ้าระวังแห่งนี้ระบุว่า การโจมตีในวันอาทิตย์ของวายพีจี ซึ่งมีนักรบชาวอัสซีเรียเข้าร่วมด้วย ได้บุกไปจนถึงระยะ 5 กม.ห่างจากเมืองเทลฮามิส เมืองในความควบคุมของไอเอส และมีนักรบไอเอสตายไปอย่างน้อย 14 คน
ปีที่แล้วนักรบไอเอสก็เคยจับชาวอัสซีเรียไปเป็นจำนวนมาก เพื่อแก้เผ็ดจากการที่มีชาวอัสซีเรียบางคนเข้าร่วมกับวายพีจีในการสู้รบกับพวกเขา แต่ส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวในที่สุดหลังมีการเจรจาต่อรองกันอยู่นาน