เอเจนซีส์ - “โจ ไบเดน” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้งหลังจากล่าสุดเกิดพฤติกรรมโจ๋งครึ่มไปทั่วโลกถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อ สเตฟานี คาร์เตอร์ (Stephanie Carter) ภรรยาของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมใหม่ถอดด้าม แอชตัน คาร์เตอร์ (Ashton Carter) ในระหว่างพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งในวันอังคาร (17 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยใช้มือทั้งสองข้างโอบไหล่ของเธอราว 20 วินาทีในขณะที่ไบเดนยืนประชิดอยู่ด้านหลัง และโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูของแอชตัน คาร์เตอร์ในขณะที่เธอทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และไม่นานนักสามี แอชตัน คาร์เตอร์ ต้องเอามือมาปัดกันไว้ในขณะที่กล่าวสุนทรพจน์เพื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ สร้างกระแสโจษขานไปทั่วถึงพฤติกรรมที่น่าละอายเช่นนี้
สื่อทั่วโลก เช่น เดลีเมล์ เดอะการ์เดียน ในฝั่งอังกฤษ รวมไปถึง สื่อสหรัฐฯเกือบทุกสำนัก รวมไปถึง CNN NBC News Fox News วอชิงตันโพสต์ ต่างรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดที่น่าละอายของรองประธานาธิบดี สหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้ง หลังจากได้ใช้ช่วงเวลาที่แอชตัน คาร์เตอร์ ( Ashton Carter) กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ต่อจากชัค ฮาเกล ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (17) ที่ผ่านมา ไบเดนที่เป็นผู้รับการสาบานตนของแอชตัน ได้ใช้เวลาที่มีค่าอย่างคาดไม่ถึงกับสเตฟานี คาร์เตอร์ (Stephanie Carter) ซึ่งแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่เธอยืนไม่ห่างจากสามี
โดยวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ไบเดนได้โอบเธอไว้จากด้านหลัง โดยวางมือทั้งสองบนใหล่ของเธอเป็นเวลาราว 20 วินาที ก่อนที่จะโน้มตัวลงต่ำเพื่อกระซิบที่ข้างหูที่คล้ายกับว่ารองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะก้มจุมพิตเธอ และในชั่วอึดใจ แอชตัน สามีที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์อดรนทนไม่ได้ ถึงกับใช้มือข้างหนึ่งคว้าแขนภรรยาไว้และกล่าวชื่นชมภรรยาในสุนทรพจน์ และทำให้ไบเดนต้องผละออกห่างจากสตฟานี คาร์เตอร์ในที่สุด ซึ่งถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ยาวนัก แต่ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยเฉพาะในโลกตะวันตกที่ถือว่า ระยะส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการที่เข้าประชิดคล้ายกับเกือบสวมกอดเป็นสิ่งที่ต้องห้ามหากไม่ใช่เป็นบุคคลในครอบครัว หรือมีความสัมพันธ์ส่วนบุคคลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่คนทั่วไปอาจมองว่าเสรี แต่ทว่าโดยแท้จริงแล้วเป็นชาติที่อนุรักษ์นิยม อาทิ ชายอเมริกันจะไม่ทักทายเพื่อนชายอื่นโดยการจูบที่แก้ม ต่างจากชายชาวยุโรป เป็นต้น
ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกของไบเดนที่แสดงพฤติกรรมรุ่มร่ามกับสตรีเพศในที่สาธารณะ โดยมีการจับภาพของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นั่งประชิดถ่ายภาพร่วมกับหญิงอเมริกันสิงมอเตอร์ไซค์จนเกินงาม ที่ดูจากในภาพจะพบว่าเธอดูเหมือนจะยินยอมต่อพฤติกรรมก้อร่อก้อติกของไบเดน แต่ทว่า เพื่อนนักบิดฝ่ายชาย 2คนที่นั่งอยู่ประกบคนทั้งคู่มีสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสายตาที่มองไปยังไบเดนในภาพถ่าย
นอกจากนี้ ไบเดนยังแสดงความสนิทสนมเกินงามกลางเวทีพิธีสาบานตนวุฒิสมาชิก คริส คูนส์ (Chris Coons) รัฐเดลาแวร์ พรรคเดโมแครตในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับแมกกี คูนส์ (Maggie Coons) บุตรสาวของวุฒิสมาชิกคูนส์ ที่เขาได้ใช้มือทั้งสองข้างจับต้นแขนของแมกกี คูนส์ พร้อมโน้มตัวไปกระซิบข้างหูเธอ ในขณะที่ ส.ว.รัฐเดลาแวร์กล่าวปัดว่าไม่คิดว่าพฤติกรรมไบเดนจะไม่เหมาะสมที่เข้าใกล้บุตรสาวเกินขอบเขต เพราะคนทั้งคู่รู้จักกันมานานแล้ว จากการที่รัฐบ้านเกิดของไบเดนคือรัฐเดลาแวร์
แต่ทว่า สจวต สตีเวนส์ (Stuart Stevens) ที่ปรึกษาอาวุโสของมิตต์ รอมนีย์ ในการลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2012 ได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของแมกกี คูนส์ และสเตฟานี คาร์เตอร์ และชี้ว่า สิ่งที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระทำนั้นเป็นอะไรที่มากไปกว่า “เพราะเป็นไบเดน” โดยให้ความเห็นว่า สีหน้าของภรรยารัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คนใหม่ จากรูปถ่ายแสดงถึงความอึดอัดอย่างชัดเจน และสตีเวนส์คิดว่า ไบเดนควรหันกลับไปใช้วิธีเดิมในการถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้อื่น ด้วยการแสยะยิ้ม หรือทำมาดเท่ภายใต้แว่นตากันแดดตามถนัดเหมือนเช่นที่แล้วมา