เอเอฟพี - วันนี้ (17 ก.พ.) เหล่ามหาอำนาจชาติตะวันตกเน้นย้ำว่า จำเป็นต้องมีการหาทางออกทางการเมืองให้แก่วิกฤตการณ์ที่เข้าครอบงำลิเบีย ซึ่งเปรียบได้กับการปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากอียิปต์ ที่ต้องการให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มอบอำนาจให้ใช้ปฏิบัติการทหารเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในชาติแถบแอฟริกาเหนือที่กำลังบอบช้ำจาสงครามแห่งนี้
ประธานาธิบดีอัลเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี แห่งอียิปต์ชี้ว่า “ไม่มีทางเลือกอื่น” นอกจากการตั้งกลุ่มชาติพันธมิตรทั่วโลกขึ้นมาประจันหน้ากับกลุ่มหัวรุนแรงในลิเบีย ภายหลังกรุงไคโรดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศล้างแค้น ที่นักรบญิฮาดหัวรุนแรงกลุ่มนี้ลงมือฆ่าตัดศีรษะชาวอียิปต์ที่นับถือศาสนาคริสต์ 21 คนในลิเบีย
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะนำประเด็นนี้เข้าหารือในวันนี้ (18) ภายหลังถูกร้องขอจาก ซาเมห์ ชูครี รัฐมนตรีต่างประเทศแดนไอยคุปต์ ผู้สนับสนุนให้ใช้ปฏิบัติการทหารเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในลิเบีย และ “สนับสนุน” ให้มีการปราบปรามนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ “อย่างเต็มที่” ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยโดยกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์
นักการทูตจากชาติอาหรับต่างแสดงท่าทีสนับสนุนคำขอของกรุงไคโร แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาชี้ว่า จำเป็นต้องให้ลิเบียสนับสนุนการแทรกแซงอย่างเป็นทางการเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องยาก เนื่องจากตอนนี้ลิเบียมีสองรัฐสภา และรัฐบาลสองชุดที่เป็นอริกัน โดยข้างหนึ่งมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับกลุ่มอิสลามิสต์ ส่วนอีกข้างหนึ่งได้รับการรับรองจากประชาคมนานาชาติ
นอกจากนี้ บรรดามหาอำนาจตะวันตกได้พยายามหลีกเลี่ยงข้อเสนอให้ใช้ปฏิบัติการทหารเข้าแทรกแซง โดยชี้ว่า การพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลทั้งสองขั้วของลิเบียที่ตั้งต้นเป็นศัตรูกัน ยอมเจรจากันนั้นเป็น “ความหวังที่ดีที่สุด” ในกระบวนการสันติภาพที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็น
สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี และสเปนระบุในคำแถลงที่โรมนำออกเผยแพร่ว่า กรณีการบั่นคอชาวอียิปต์ที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคอปติก 21 คนเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า “เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จำเป็นต้องมีการหาทางออกทางการเมืองให้แก่วิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้โดยด่วน”
นักการทูตแดนไอยคุปต์ออกมาผลักดันให้ยูเอ็นมอบอำนาจให้ใช้กำลังทหาร หลังอียิปต์ส่งฝูงบินรบ F-16 ทิ้งระเบิดโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มหัวรุนแรงในเมืองเดอร์นา ของลิเบียได้หนึ่งวัน ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 4 ปีที่กบฏที่ได้รับการหนุนหลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ลุกฮือโค่นล้มผู้นำเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011
การโจมตีทางอากาศของแดนไอยคุปต์ เปิดฉากขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในลิเบียแพร่คลิปสยองซึ่งเผยให้เห็นวินาทีที่ชาวคริสต์ทั้ง 21 คนถูกบั่นคอ โดยเหยื่อกลุ่มนี้เป็นพลเมืองอียิปต์ที่เดินทางไปหางานทำในลิเบีย แต่ถูกกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส จับตัวไป
เจ้าชาย เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้กล่าวประณามการสังหารหมู่ครั้งนั้นว่าเป็น “การก่ออาชญากรรมชั่วร้าย ที่ตั้งเป้าเล่นงานคนต่างศาสนา”
บาดร์ อับเดลลัตตี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไคโรกล่าวว่า อียิปต์กำลังกระตุ้นให้พลเมืองเรือนแสนที่ยังอาศัยอยู่ในลิเบียเดินทางออกจากประเทศเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ ลิเบียต้องเผชิญกับเหตุชุลมุนวุ่นวายมาโดยตลอด นับแต่เกิดการลุกฮือโค่นล้มกัดดาฟี โดยเป็นเวลาเนิ่นนานแล้วที่อียิปต์ชี้ว่า การที่นาโต้เข้าแทรกแซงช่วยเหลือกลุ่มกบฏในลิเบีย ทำให้ไคโรต้องดิ้นรนรับมือกับเหตุไม่สงบที่ปะทุตามแนวพรมแดนฟากทิศตะวันตก
