เอเอฟพี – รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะไม่ต่อสัญญา “สวอป” ค่าเงิน (currency swap pact) ซึ่งใช้มานานถึง 14 ปี และกำลังจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้แถลงวันนี้(16 ก.พ.)
ข้อตกลงสวอปค่าเงินที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2001 ด้วยมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ 2 ประเทศเพื่อนบ้านสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามเกิดวิกฤตการเงิน
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ระบุว่า ข้อตกลงนี้จะสิ้นอายุลงในวันที่ 23 กุมภาพันธ์โดยไม่มีการต่อสัญญา แต่ทั้ง 2 ประเทศจะยังคงร่วมมือกัน “อย่างเหมาะสม หากมีความจำเป็นเกิดขึ้น”
ด้านกระทรวงการคลังญี่ปุ่นก็ได้แถลงยืนยันการยกเลิกข้อตกลงสวอปกับเกาหลีใต้ พร้อมระบุว่ารัฐมนตรีจากทั้ง 2 ชาติจะพบปะพูดคุยกันที่กรุงโตเกียว ในวันที่ 23 พฤษภาคม
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีการเจรจาปรับเปลี่ยนรายละเอียดของข้อตกลงสวอปค่าเงินเรื่อยมา จนได้เพิ่มมูลค่าเป็น 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2011 เพื่อรับมือวิกฤตการเงินโลกตั้งแต่การล่มสลายของวาณิชธนกิจ เลย์แมน บราเธอร์ส เรื่อยมาจนถึงวิกฤตหนี้สิ้นยูโรโซน
เพดานการสวอปค่าเงินถูกปรับลดลงในปีถัดมา ท่ามกลางข้อพิพาทด้านประวัติศาสตร์และเขตแดนที่ร้อนระอุขึ้น แต่ในเวลานั้นทั้งโซลและโตเกียวยืนยันว่า การลดเพดานสวอปค่าเงินเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ไม่ได้มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง
สัญญาสวอปค่าเงินช่วยให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สามารถนำสกุลเงินท้องถิ่นของตนไปขอแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ จากอีกฝ่าย ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้
“รัฐบาลตัดสินใจเช่นนี้ โดยเล็งเห็นแล้วว่าสภาพเศรษฐกิจและการคลังของเราเข้มแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน” เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“ทุนสำรองระหว่างประเทศของเรายังสูงมาก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อสัญญาสวอปค่าเงินอีก”
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของเกาหลีใต้อยู่ที่ 362,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าพอใจ
เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ได้เปรยเป็นนัยๆ ว่า ข้อตกลงสวอปค่าเงินจะไม่ถูกต่ออายุ หากไม่มีคำขอจากรัฐบาลเกาหลีใต้
ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเอเชียตะวันออกที่ต่างเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯด้วยกันทั้งคู่อยู่ในภาวะตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยสาเหตุหลักเกิดจากปมประวัติศาสตร์ในช่วงที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างปี 1910-1945