เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ยื่นคำขออย่างเป็นทางการต่อรัฐสภาในวันพุธ (11 ก.พ.) เพื่อให้อนุมัติอำนาจในการใช้กำลังทหารทำสงครามกับกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) โดยเขาระบุว่าเป็นการเปิดทางให้สามารถส่งกองทหารรบพิเศษไล่ล่าผู้นำไอเอสด้วย ทางด้านอิรักแถลงว่าไม่เคยเรียกร้องให้ต่างชาติส่งกำลังทหารภาคพื้นดินเข้าไปช่วย ขณะเดียวกันก็เปิดเผยว่าจอร์แดนประกาศให้ความช่วยเหลือทางการทหารเต็มอัตราศึกเพื่อกวาดล้างนักรบญิฮัดหัวรุนแรงกลุ่มนี้
ประธานาธิบดีโอบามาขอให้รัฐสภาอนุมัติอำนาจในการใช้กำลังทหารอเมริกันเข้าสู้รบกับกลุ่มไอเอส ในดินแดนอื่นๆ นอกเหนือจากฐานที่มั่นปัจจุบันของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ในซีเรียและอิรักด้วย หากเกิดความจำเป็น
ผู้นำสหรัฐฯ สำทับว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรเป็นฝ่ายรุก และไอเอสเป็นฝ่ายรับและกำลังจะพ่ายแพ้
ทั้งนี้ กองทัพอเมริกันและพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อไอเอสในอิรักและซีเรียนับจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
โอบามายังให้คำมั่นว่า หากมีข่าวกรองที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการซ่องสุมของผู้นำไอเอส และพันธมิตรไม่มีกำลังเพียงพอในการดำเนินการ อเมริกาพร้อมส่งหน่วยทหารรบพิเศษเข้าไปไล่สังหารหัวโจกก่อการร้ายกลุ่มนี้
การขออำนาจโจมตีไอเอสของโอบามาเป็นการส่งสัญญาณการเพิ่มความกดดันต่อไอเอส ขณะที่ทางอิรักเองกำลังเตรียมปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่เพื่อชิงพื้นที่คืนจากกลุ่มก่อการร้ายนี้ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้
นอกจากนั้น ประมุขทำเนียบขาวยังต้องการให้คองเกรสที่ขณะนี้ถูกยึดครองเบ็ดเสร็จโดยพรรครีพับลิกัน ร่วมรับผิดชอบในการต่อสู้กับไอเอส
แผนการที่โอบามาเสนอคราวนี้ มีข้อกำหนดด้วยว่าไม่อนุญาตให้มีการปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่ระยะยาวเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอิรักและอัฟกานิสถาน แต่ยอมให้กองทหารอเมริกันเก็บข้อมูลข่าวกรอง กำหนดเป้าหมายการโจมตีด้วยอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) รวมทั้งวางแผนและให้ความช่วยเหลืออื่นๆ แก่กองกำลังท้องถิ่น โดยอำนาจนี้จะสิ้นสุดลงภายใน 3 ปีนับจากมีผลบังคับใช้ และโอบามาต้องจัดทำรายงานความคืบหน้าให้รัฐสภาพิจารณาทุก 6 เดือน
ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมาก โดยเฉพาะในสภาล่างวิจารณ์ว่าข้อเสนอของโอบามากว้างขวางเกินไป คลุมเครือเกินไป พวกเขาต้องการให้จำกัดการใช้กำลังภาคพื้นดินอย่างชัดเจน อีกทั้งพวกเขายังกังวลกับการที่ข้อเสนอดังกล่าวไม่ระบุขอบเขตด้านภูมิศาสตร์
ขณะที่สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันเตือนว่า การระบุจำกัดขอบเขตการรบภาคพื้นดินอย่างชัดเจน อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายยุทธศาสตร์ทางการทหารของอเมริกาเอง
อย่างไรก็ดี ขณะที่เป็นที่คาดว่าประเด็นการส่งกำลังภาคพื้นดินของอเมริกาเพื่อร่วมขจัดไอเอสในตะวันออกกลางจะเป็นประเด็นร้อนในการอภิปรายของรัฐสภาสหรัฐฯ นั้น ทางแบกแดดเองกลับออกตัวว่า ไม่ได้เรียกร้องให้กองกำลังต่างชาติร่วมรบภาคพื้นดินด้วยแต่อย่างใด
อิบรอฮิม อัล-จาฟาอารี รัฐมนตรีต่างประเทศอิรักแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (12) หลังเข้าพบ จูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียที่นครซิดนีย์ว่า แผนการที่อิรักส่งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่มีการร้องขอให้ต่างชาติส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่อิรัก แต่ต้องการเพียงการโจมตีสนับสนุนทางอากาศ การฝึก และข้อมูลข่าวกรองเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เขาสำทับว่าการรบครั้งใหญ่เพิ่งเริ่มต้น และสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปจากนี้
อัล-จาฟาอารียังบอกอีกว่า กองกำลังอิรักกำลังเดินหน้ารุกไล่ไอเอส และไม่ได้ขาดแคลนกำลังพล
นอกจากนั้น เมื่อวันพุธ กาลิด อัล-โอไบดี รัฐมนตรีกลาโหมของอิรักยังเปิดเผยว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ได้ทรงสั่งให้กองทัพจอร์แดนให้ความช่วยเหลือทางการทหารทุกรูปแบบแก่อิรักเพื่อต่อสู้กับไอเอส
การเปิดเผยนี้ได้รับการยืนยันจากพลเอกโมฮัมเหม็ด อัล-ซาเบน เมชาล ประธานเสนาธิการทหารร่วมของจอร์แดน ที่เดินทางเยือนแบกแดดและร่วมแถลงข่าวกับอัล-โอไบดี โดยยืนยันว่า อัมมานร่วมชะตากรรมเดียวกับแบกแดด และจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดไอเอส
คำประกาศนี้มีขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่แล้ว ไอเอสแพร่คลิปนักบินจอร์แดนที่ถูกจับเป็นเชลยตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถูกพวกไอเอสสังหารด้วยการเผาทั้งเป็น ซึ่งนับจากนั้นเป็นต้นมา จอร์แดน พันธมิตรสำคัญในตะวันออกกลางของอเมริกา ก็ระดมโจมตีทางอากาศต่อไอเอสตามที่ประกาศไว้ว่าจะตอบโต้อย่างสาสมเพื่อแก้แค้นให้กับนักบินที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด