เอเอฟพี - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เผยเมื่อวันอังคาร (10 ก.พ.) ว่าได้กลับมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) อีกครั้ง หลังได้ระงับไปจากกังวลว่ากำลังพลของตนเองจะถูกจับเป็นตัวประกันเหมือนกับนักบินจอร์แดน ขณะที่ประธานาธิบดีซีเรียแนะพันธมิตรนานาชาติช่วยเหลือรัฐบาลของเขาหากต้องการกำราบนักรบกลุ่มนี้
ปฏิบัติการจู่โจมของยูเออีมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย เผยว่าดามัสกัสได้รับแจ้งเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อต้านไอเอสในซีเรียแล้ว แต่ก็บอกว่าหากพันธมิตรนานาชาติจริงจังกับเรื่องนี้ก็ควรให้ความช่วยเหลือรัฐบาลของเขา
กองบัญชาการกองทัพอากาศของยูเออีเผยว่า ฝูงบินเอฟ-16 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งบินสู่จอร์แดนตั้งแต่วันอาทิตย์ (8 ก.พ.) ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มไอเอส สามารถเล่นงานเป้าหมายต่างๆ และกลับสู่ฐานทัพได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ได้ระบุว่ามีเครื่องบินรบกี่ลำที่ร่วมภารกิจดังกล่าว รวมถึงเป้าหมายคืออะไรและตั้งอยู่ที่ไหน
หลังจากเครื่องบินเอฟ-16 ของ ร.ท.มาอัซ อัล-คัสซัสเบห์ ตกและถูกพวกไอเอสจับเป็นตัวประกันเมื่อเดือนธันวาคม ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถอนตัวจากภารกิจโจมตีของพันธมิตรนานาชาติเนื่องจากหวั่นกลัวความปลอดภัยของนักบิน ทั้งนี้ ต่อมาไอเอสจับนักบินรายนี้เผาทั้งเป็นและเผยแพร่วิดีโอการประหารอันเหี้ยมโหดบนโลกออนไลน์
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า อาบูดาบีต้องให้พันธมิตรนานาชาติให้ความสำคัญต่อมาตรการค้นหาและช่วยเหลือนักบินที่เครื่องบินตกในเขตความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น และต่อมากองทัพสหรัฐฯ ก็ประจำการอากาศยานและทหารในแถบตอนเหนือของอิรัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ
เมื่อวันอังคาร (10 ก.พ.) เพนตากอนเผยว่า เครื่องบินพันธมิตรนานาชาติปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 1 เที่ยวทางภาคตะวันออกของซีเรียช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และถล่มทางอากาศต่อนักรบญิฮัดในอิรัก 11 เที่ยว ทั้งนี้พันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศต่อไอเอสในซีเรียมาตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนปีก่อน ทว่าพวกเขาปฏิเสธร่วมมือกับดามัสกัส
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซีเมื่อวันอังคาร (10 ก.พ.) อัสซาดยืนยันว่าไม่มีการร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งสมาชิกบางส่วนถูกเขากล่าวหาว่าให้การสนับสนุนก่อการร้าย อ้างถึงกรณีที่บางประเทศให้การหนุนหลังฝ่ายกบฏที่กำลังสู้รบเพื่อโค่นล้มอำนาจเขา “ไม่มีการร่วมมือโดยตรงกับพันธมิตร” อัสซาดกล่าว “บางครั้งพวกเขาก็ส่งข้อความมา ข้อความทั่วไป ไม่มีการสนทนา มีข้อมูล แต่ไม่มีการสนทนา” พร้อมเผยว่าการสื่อสารดังกล่าวเป็นการติดต่อผ่านบุคคลที่ 3 “มีมากกว่า 1 ฝ่าน อิรักและประเทศอื่น”
ดามัสกัสซึ่งไม่เต็มใจยอมรับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อต้านไอเอสในดินแดนของตนเอง เผยว่าได้จับแจ้งล่วงหน้าจากพันธมิตรก่อนลงมือโจมตี แต่ก็ย้ำถึงคำวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีที่พันธมิตรไม่ยอมร่วมมือกับพวกเขา
ทั้งนี้ ดามัสกัสบอกว่า การจู่โจมดังกล่าวไม่อาจเอาชนะพวกไอเอสได้ ตราบใดที่ประชาคมโลกยังไม่เริ่มประสานงานกับทหารซีเรียในภาคพื้น ขณะที่อัสซาด ระบุปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯอาจช่วยรัฐบาลของเขา แต่จนถึงตอนนี้พันธมิตรนานาชาติไม่มีความจริงจังมากพอที่จะทำแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บอกว่าปฏิบัติการโจมตีต่อต้านไอเอส คือการเปิดทางให้รัฐบาลซีเรียพุ่งเป้าไปยังกลุ่มกบฏอื่นๆ ขณะที่เหล่าแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย กล่าวหาวอชิงตันว่ากำลังละทิ้งพวกเขา โดยเล็งเป้าหมายถล่มนักรบญิฮัดแทนที่จะเป็นกองกำลังของอัสซาด