ยอดผู้ชุมนุมต้านอิสลามในเยอรมนี “ลดฮวบ” หลังผู้นำลาออกเพราะเซลฟีเลียนแบบ “ฮิตเลอร์”

รอยเตอร์ - ยอดผู้ประท้วงต่อต้านอิสลาม ที่ออกมาชุมนุมกันในเมืองเดรสเดิน ทางตะวันออกของเยอรมนีมีจำนวน “ลดฮวบลง” จากที่เคยทำสถิติได้สูงสุดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ภายหลังได้รับแรงกระตุ้นจากเหตุการณ์มือปืนอิสลามิสต์ถล่มยิงสำนักงานนิตยสารแนวเสียดสีประชดประชัน “ชาร์ลี เอ็บโด” ของฝรั่งเศส

การประท้วงคราวนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ขบวนการขวาจัดกลุ่มนี้เรียกชุมนุม นับแต่ ลุทซ์ บาคแมนน์ ผู้นำขบวนการ ประกาศลาออก หลังมีภาพถ่ายเขาขณะไว้ผม และหนวดเลียนแบบ “ฮิตเลอร์” ผู้นำเผด็จการนาซีเยอรมนีโผล่หราออกมาตามสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งยังมีรายงานว่า เขาเคยตราหน้าผู้ลี้ภัยว่าเป็น “กากเดนสังคม” จนจุดประกายให้อัยการเมืองเบียร์ต้องเรียกตัวเขาไปสอบปากคำ ฐานปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง

ตำรวจเยอรมันระบุว่า มีประชาชนออกมาเข้าร่วมการประท้วง ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มเพกิดา หรือ “ขบวนการชาวยุโรปรักชาติต่อต้านกระแสอิสลามานุวัตรแห่งตะวันตก” ราว 17,300 คน ซึ่งลดลงจากยอดผู้ชุมนุม 25,000 คน ที่เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงครั้งก่อน เมื่อวันที่ 12 มกราคม

กลุ่มผู้ชุมนุมพากันโบกสะบัดธงชาติเยอรมัน และถือป้ายที่มีข้อความต่างๆ เป็นต้นว่า “ต่อต้านกระแสอิสลามานุวัตรแบบมัดมือชก” ขณะที่คาธริน เออร์เทิล โฆษก และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งขบวนการเพกิดา ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว เมื่อเธอประกาศว่า “พวกอิสลามิสต์ และพวกคลั่งศาสนาต้องถูกขับไล่ออกไปให้หมด และต้องไม่อนุญาตให้กลับเข้ามาอีก”

ตำรวจเมืองเบียร์ระบุว่า วานนี้ (25) มีประชาชนมากถึง 5,000 คนได้เดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมฝ่ายต่อต้านขบวนการเพกิดา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนยึดหลัก “คตินิยมสากลและขันติธรรม” ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ชูป้ายที่มีข้อความว่า “ยินดีต้อนรับผู้ลี้ภัย และเดรสเดินเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา”

ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “บิลด์อัมซอนน์ทาก” ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันกล่าวว่า การประท้วงต่อต้านอิสลามของเพกิดากำลังทำลายชื่อเสียงของเยอรมนีในสายตาชาวโลก

เขากล่าวว่า “ที่เยอรมนี เราประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสโลแกน และป้ายประท้วงซึ่งแสดงถ้อยคำเกลียดชังชาวต่างชาติ และเหยียดเชื้อชาติ ของขบวนการเพกิดาต่ำเกินไป”

ผู้ว่าการรัฐทางภาคตะวันออกของเยอรมนีหลายคนได้ออกมาเรียกร้องผ่านทางหนังสือพิมพ์ “เวลท์อัมซอนน์ทาก” ให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลไปยังเยอรมนีให้มากขึ้น ในยามที่ประเทศนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ และเป็นดินแดนที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป โดยเหล่าผู้นำชี้ว่า ภาคตะวันออกของเยอรมนีเป็นพื้นที่ซึ่งต้องการผู้อพยพมากกว่าที่อื่น