เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันปิดผสมผสานเมื่อวันศุกร์ (23 ม.ค.) หลังการสวรรคตของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ชาติสมาชิกรายใหญ่ของโอเปก ก่อความกังวลต่อนโยบายของทางกลุ่ม ส่วนวอลล์สตรีทขยับลงแรงจากรายงานผลประกอบการอันน่าผิดหวังของบริษัทต่างๆ เช่นเดียวกับทองคำที่ถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 72 เซ็นต์ ปิดที่ 45.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 27 เซ็นต์ ปิดที่ 48.79 ดอลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ระบุว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ พระชนมายุ 90 พรรษา เสด็จสวรรคตเมื่อเวลา 01.00 น.ในวันศุกร์ (23 ม.ค.) และราชวงศ์ก็เคลื่อนไหวแสดงความต่อเนื่องในโครงสร้างทางอำนาจและการเมืองของประเทศทันที
เจ้าชายซัลมาน บิน อับดุลอาซิส มกุฎราชกุมารคือผู้สืบทอดราชสมบัติ สถาปนาขึ้นเป็นเกษัตริย์องค์ใหม่ ขณะที่พระองค์ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ตรัสว่าจะนำพาประเทศอยู่บนเส้นทางแห่งความมั่นคงต่อไปและเรียกร้องความรักความสามัคคีในหมู่ชาวมุสลิม
ในฐานะชาติผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโอเปก ซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังคอยผลักดันให้ทางกลุ่มปฏิเสธปรับลดกำลังผลิตเพื่อสนับสนุนราคาน้ำมัน แม้ว่าราคาน้ำมันดำดิ่งอย่างฉับพลัน โดยน้ำมันดิบขยับลงจากราคาเมื่อเดือนมิถุนายนมาแล้วราวๆร้อยละ 60
ท่ามกลางการจับตาทิศทางในอนาคตของซาอุดีอาระเบีย ทิม อีแวนส์ จากซิตี ฟิวเจอร์ส ตั้งข้อสังเกตว่า กษัตริย์ซัลมานคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานและต่างประเทศ เนื่องจาก อาลี อัล-ไนมี ยังคงได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงานตามเดิม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (23 ม.ค.) ปิดผสมผสาน หลังรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทต่างๆ กัดเซาะแนวโน้มในทางบวกจากกรณีธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรและกระตุ้นการเติบโตของยูโรโซน
ดาวโจนส์ ลดลง 141.38 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,672.60 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 11.33 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,051.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 7.48 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,757.88 จุด
ยูพีเอส บริษัทขนส่งสินค้าและไปรษณีย์เอกชนใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ คือตัวที่ฉุดเอสแอน์พี 500 หนักหนักที่สุด หลังให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาดหมาย อ้างถึงผลดำเนินงานด้านการขนส่งทางบกภายในสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวัง โดยหุ้นของบริษัทร่วงลงถึงร้อยละ 9.5 ปิดที่ 103.36 ดอลลาร์่ต่อหุ้น ส่วนเฟดเอ็กซ์คอร์ป ก็ปิดลบร้อยละ 2.1 ปิดที่ 177.61 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ขณะที่ 2 สมาชิกของดัชนีดาวโจนส์อย่าง แมคโดนัลด์ และ เจนเนอรัล อิเล็คทริก (จีอี) ก็มีรายงานที่น่าผิดหวัง โดยแม็คโดนัลด์ คอร์ป มียอดขายในช่วงไตรมาส 4 ลดลงอย่างมาก ส่วนจีอี ก็มียอดจำหน่ายลดลงในฝ่ายน้ำมันและก๊าซ แม้โดยรวมแล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้นก็ตาม
ตัวเลขดังกล่าวกลบความหวังที่ลุกโชติช่วงของนักลงทุน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เคลื่อนไหวออกมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรมากกว่าที่คาดหมายไว้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาของภูมิภาคและต่อสู้กับภาวะเงินฝืด
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (23 ม.ค.) ขยับลงพอสมควร จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และตลาดทบทวนผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้ของมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของอีบีซี โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,292.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์