เอเอฟพี - ทีมประดาน้ำอินโดนีเซียเมื่อวันศุกร์(23ม.ค.) ในที่สุดก็ฝันฝ่าอุปสรรค์ดำลงไปถึงซากลำตัวของเครื่องบินแอร์เอเชียที่ดิ่งลงสู่ทะเลชวาเมื่อเดือนก่อน เจ้าหน้าที่เผยพร้อมระบุว่าสามารถเก็บกู้ร่างเหยื่อได้เพิ่มเติมอีก 4 ศพ
เที่ยวบิน QZ8501 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิต ตกลงสู่ทะเลชวาท่ามกลางพายุเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ขณะบินในเส้นทางระยะสั้นจากเมืองสุราบายาของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์
ซูร์ยาดี บัมบัง สุปรียาดี ผู้อำนวยการหน่วยค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซีย บอกกับเอเอฟพีว่า "ทีมประดาน้ำเข้าถึงชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องบินแล้วในตอนเช้าวันนี้ แต่ยังไม่ได้เข้าไปภายใน เพราะมันมีสายเคเบิลจำนวนมาก เช่นเดียวกับเศษซากต่างๆ" และระบุว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงบ่ายเป็นอุปสรรคในการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีศพอยู่ภายในหรือไม่
ทีมช่วยเหลือมุมานะอย่างหนักเพื่อเข้าให้ถึงส่วนลำตัวหลักของแอร์บัส320-200 นับตั้งแต่เรือของกองทัพเรือสิงคโปร์ตรวจพบมันจมอยู่ก้นทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทว่าความพยายามเหล่านั้นมีอันต้องล้มเหลวสืบเนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
เจ้าหน้าที่หวังว่าร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะติดอยู่ภายในลำตัว และวางแผนประเมินอย่างละเอียดเพิ่มเติมเพื่อหาทางกู้ศพเหล่านั้นขึ้นมา
ทั้งนี้ในวันศุกร์(23ม.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างเหยื่อขึ้นมาได้เพิ่มเติมอีก 4 ศพ หลังพบอยู่ใกล้ๆซากลำตัวของเครื่อง ส่งผลให้จนถึงตอนนี้ยอดรวมของร่างไร้วิญญาณของลูกเรือและผู้โดยสารที่กู้ขึ้นมาได้ มีจำนวนอยู่ที่ 63 ศพ
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(22ม.ค.) นักประดาน้ำพบศพเหยื่อเพิ่มเติม 6 ศพ ในสภาพที่บางศพยังคาดเข็มขัดนิรภัยติดอยู่กับเบาะ
ในส่วนกล่องดำ ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน และอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินนั้น สามารถกู้ขึ้นมาได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์ทั้งสอง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20) อิกนาเซียส โจนัน รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซีย แถลงต่อรัฐสภาว่า เครื่องบินของแอร์เอเชียไต่ระดับอย่างรวดเร็วผิดปกติก่อนที่เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและตกลงกลางทะเลชวาภายในเวลาไม่กี่นาที
โจนัน อ้างอิงข้อมูลเรดาร์ โดยระบุว่า “ในช่วงนาทีท้ายๆ เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปด้วยความเร็วสูงผิดปกติ และเครื่องบินเร่งความเร็วเกินขีดจำกัดที่อย่างกะทันหัน ก่อนที่จะสูญเสียการทรงตัว”
เที่ยวบิน QZ8501 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิต ตกลงสู่ทะเลชวาท่ามกลางพายุเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ขณะบินในเส้นทางระยะสั้นจากเมืองสุราบายาของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์
ซูร์ยาดี บัมบัง สุปรียาดี ผู้อำนวยการหน่วยค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซีย บอกกับเอเอฟพีว่า "ทีมประดาน้ำเข้าถึงชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องบินแล้วในตอนเช้าวันนี้ แต่ยังไม่ได้เข้าไปภายใน เพราะมันมีสายเคเบิลจำนวนมาก เช่นเดียวกับเศษซากต่างๆ" และระบุว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงบ่ายเป็นอุปสรรคในการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีศพอยู่ภายในหรือไม่
ทีมช่วยเหลือมุมานะอย่างหนักเพื่อเข้าให้ถึงส่วนลำตัวหลักของแอร์บัส320-200 นับตั้งแต่เรือของกองทัพเรือสิงคโปร์ตรวจพบมันจมอยู่ก้นทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทว่าความพยายามเหล่านั้นมีอันต้องล้มเหลวสืบเนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
เจ้าหน้าที่หวังว่าร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะติดอยู่ภายในลำตัว และวางแผนประเมินอย่างละเอียดเพิ่มเติมเพื่อหาทางกู้ศพเหล่านั้นขึ้นมา
ทั้งนี้ในวันศุกร์(23ม.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างเหยื่อขึ้นมาได้เพิ่มเติมอีก 4 ศพ หลังพบอยู่ใกล้ๆซากลำตัวของเครื่อง ส่งผลให้จนถึงตอนนี้ยอดรวมของร่างไร้วิญญาณของลูกเรือและผู้โดยสารที่กู้ขึ้นมาได้ มีจำนวนอยู่ที่ 63 ศพ
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(22ม.ค.) นักประดาน้ำพบศพเหยื่อเพิ่มเติม 6 ศพ ในสภาพที่บางศพยังคาดเข็มขัดนิรภัยติดอยู่กับเบาะ
ในส่วนกล่องดำ ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน และอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินนั้น สามารถกู้ขึ้นมาได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์ทั้งสอง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20) อิกนาเซียส โจนัน รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซีย แถลงต่อรัฐสภาว่า เครื่องบินของแอร์เอเชียไต่ระดับอย่างรวดเร็วผิดปกติก่อนที่เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและตกลงกลางทะเลชวาภายในเวลาไม่กี่นาที
โจนัน อ้างอิงข้อมูลเรดาร์ โดยระบุว่า “ในช่วงนาทีท้ายๆ เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปด้วยความเร็วสูงผิดปกติ และเครื่องบินเร่งความเร็วเกินขีดจำกัดที่อย่างกะทันหัน ก่อนที่จะสูญเสียการทรงตัว”