xs
xsm
sm
md
lg

โสมขาวสั่งจับนักเคลื่อนไหว ฐาน “อวยเกาหลีเหนือ” อีกราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดี พัค กึนฮเย แห่งเกาหลีใต้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเนื่องในโอกาสช่วงปีใหม่ที่ทำเนียบสีฟ้าในกรุงโซล เมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 2015
เอเอฟพี – ไม่กี่วันหลังจากการเนรเทศสตรีชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีออกจากประเทศฐานยกย่องเกาหลีเหนือ ทางการเกาหลีใต้ได้จับกุมเพื่อนนักเคลื่อนไหวของเธอและอดีตนักการเมืองฝ่ายซ้ายในข้อหาเดียวกัน

สตรีทั้งรายนี้เผชิญกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสแอล) อันเข้มงวดของเกาหลีใต้ ที่ถูกประกาศใช้ในปี 1948 เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐหัดเดินแห่งนี้ถูกแทรกแซงจากรัฐคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ

นักวิจารณ์ในประเทศและกลุ่มสิทธินานาชาติโต้แย้งว่า กฎหมายฉบับนี้เปิดทางให้กับการข่มแหงและจำกัดเสรีภาพในการพูด แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ภัยคุกคามต่อเนื่องจากเกาหลีเหนือที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งพิสูจน์ว่ากฎหมายนี้ถูกต้องชอบธรรม

ฮวอง ซุน อดีตนักการเมืองฝ่ายซ้าย และนักเคลื่อนไหวสนับสนุนการรวมชาติ ถูกจับกุมฐานยกย่องเกาหลีเหนือและผู้นำโสมแดงจากการบรรยายหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ระหว่างเธอกับ ชิน อึนมี ซึ่งถูกเนรเทศออกนอกประเทศไปเมื่อวันเสาร์ (10)

ศาลแขวงกลางกรุงโซล ระบุว่า ทางศาลเห็นพ้องที่จะออกหมายฉบับนี้ เนื่องด้วย “ความร้ายแรงของข้อหาดังกล่าว” และมีความเป็นไปได้ที่ ฮวอง วัย 41 ปี จะยังคงแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต

กฎหมายเอ็นเอสแอลห้ามการพูดหรือเขียนยกย่องแนวคิดของเกาหลีเหนือ โดยถือว่าการกระทำลักษณะเช่นนั้นเป็นการ “ต่อต้านรัฐ” และมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี

ฮวองยังถูกกล่าวหาด้วยว่าแสดงความคิดเห็นอย่างประจบสอพลอเกี่ยวกับเกาหลีเหนือบนช่องยูทิวบ์และเขียนบล็อกสรรเสริญ คิม อิล-ซุง ผู้สถาปนาเกาหลีเหนือ

ชิน ซึ่งเป็นพิธีกรร่วมในการทอล์คโชว์หลายครั้งร่วมกับ ฮวาง ทั่วประเทศนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม ถูกขับออกจากประเทศในวันเสาร์ (3) และถูกห้ามไม่ให้เดินทางกลับเข้าประเทศเป็นเวลา 5 ปี

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบสนองเรื่องการเนรเทศ ชิน ออกนอกประเทศ ด้วยการเน้นย้ำถึงข้อสงวนเกี่ยวกับกฎหมายเอ็นเอสแอลที่ยึดถือมายาวนานและขอบเขตที่ตั้งอยู่บนเสรีภาพในการแสดงออกในเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี พัค กึนฮเย แห่งเกาหลีใต้ กล่าวในที่แถลงข่าวเนื่องในโอกาสช่วงปีใหม่เมื่อวันจันทร์ (5) ว่า จะไม่มีการทบทวนกฎหมายที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์โดยเด็ดขาด

“ด้วยสถานการณ์เฉพาะตัวของเราที่ทั้งสองเกาหลียังอยู่ในช่วงเผชิญหน้าซึ่งกันและกันอยู่ เราจำเป็นต้องมีกฎหมายระดับขั้นต่ำเพื่อปกป้องตัวเราเอง” ปาร์คกล่าว และเสริมว่า “ฉะนั้นโปรดเข้าใจด้วยว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกบังคับใช้ตามสถานการณ์ดังกล่าว”

ทั้งนี้โดยหลักการแล้ว เกาหลีเหนือและใต้ยังคงอยู่ในภาวะสงคราม เพราะว่าความขัดแย้งระหว่างสองเกาหลีช่วงปี 1950-1953 นั้นไม่ได้สิ้นสุดลงด้วยการทำข้อตกลงสันติภาพ แต่เป็นการทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว


กำลังโหลดความคิดเห็น