เอเอฟพี – ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า พบหญิงเสียชีวิต 1 ราย หลังกลุ่มควันหนาลอยเข้าปกคลุมอุโมงค์รถไฟใต้ดินในเมืองหลวงของแดนอินทรี ในช่วงเวลาเร่งรีบหลังเลิกงานวานนี้ (12 ม.ค.)
โฆษกของการขนส่งเขตนครวอชิงตัน (WMATA) ยอมรับว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เกิดความโกลาหลอลหม่านในช่วงเวลาเร่งรีบหลังเลิกงาน ภายในระบบขนส่งมวลชนที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดเป็นอันดับสองรองลงมาจากนครนิวยอร์ก
วอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีผู้ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลายคน โดยในจำนวนนี้มี 2 รายมีการเข้าขั้นวิกฤต
กลุ่มควันโขมงได้ลอยเข้าปกคลุมสถานีรถไฟใต้ดินลองฟองต์ปลาซา ใจกลางเมืองวอชิงตัน เป็นผลให้ต้องอพยพผู้โดยสารที่กำลังตื่นตระหนกออกไปยังที่ปลอดภัย และผู้สัญจรในช่วงบ่ายรายอื่นๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน
เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินได้ช่วยกันพาผู้โดยสารที่สำลักควันไปยังรถแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้อ็อกซิเจน
WMATA ระบุในเว็บไซต์ของหน่วยงานว่า “ยังคงหาต้นตอของควันไม่พบ” และคณะกรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ ได้เริ่มสืบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว
ภาพที่เผยแพร่ไปตามสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นผู้โดยสารกำลังปิดตาปิดปาก เบียดเสียดกันแน่นในขบวนรถที่มีกลุ่มควันฟุ้งตลบ ขณะที่อุโมงค์รถไฟใต้ดินท่วมท้นไปด้วยหมอกสีเทาหนาตา
ในเวลานี้ สถานีดังกล่าวถูกปิดให้บริการชั่วคราว ขณะที่รถไฟใต้ดินที่สัญจรในสองเส้นทางหลักของเมืองนี้ก็ระงับการให้บริการไปเป็นบางส่วน
WMATA แถลงว่า เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินถูกส่งเข้าไปควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งได้เปิดระบบระบายอากาศในสถานีที่เกิดเหตุแล้ว
เว็บไซต์ของรถไฟใต้ดินระบุว่า “ตำรวจรถไฟใต้ดิน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังเข้าตรวจสอบควันในที่เกิดเหตุ ภายในสถานีลองฟองต์ปลาซา และเปิดพัดลมระบายอากาศในอุโมง (รถไฟใต้ดิน) แล้ว”
ทั้งนี้ สถานีรถไฟดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้อาคารหน่วยงานของรัฐบาล สำนักงาน และร้านอาหาร
ทั้งนี้ ระบบรถไฟใต้ดินของวองชิงตันที่มีขนาด 3,885 ตารางกิโลเมตรนั้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 ล้านคน และยังให้บริการรถไฟไปมลรัฐเวอร์จิเนีย และแมริแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย
ตามข้อมูลของ WMATA ในแต่ละปีจะมีรถไฟและรถบัสให้บริการภายในเมืองหลวงของสหรัฐฯ 2.3 ล้านเที่ยว
