เหตุจับตัวประกันซูเปอร์มาร์เก็ตปารีสตายแล้ว 2 ศพ ชี้เชื่อมโยงสังหารหมู่นิตยสาร “ล้ออิสลาม”

เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์ (9 ม.ค.) ปิดล้อม 2 พี่น้องต้องสงสัยสังหารหมู่ 12 ศพ นิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด” ทว่าระหว่างนั้นได้เกิดเหตุยิงกันและจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่แหล่งข่าวตำรวจเชื่อทั้งสองเหตุกาณ์มีความเชื่อมโยงกัน

พลซุ่มยิงถูกส่งเข้าประจำการบนหลังคาและเฮลิคอปเตอร์บินวนโดยรอบย่านธุรกิจเล็กๆในเมืองดามมาแตง ออง กูเลอ ห่างจากท่าอากาศยานหลักของปารีส ชาร์ลส เดอ โกล แค่ 12 กิโลเมตร หลังสองพี่น้องผู้ต้องสงสัยว่าก่อเหตุโจมตีนิตยสารเชิงเสียดสีรายสัปดาห์ “ชาร์ลี เอ็บโด” ได้จับตัวประกันเอาไว้ 1 คน หลังจากถูกตำรวจไล่ต้อนจนมุม

แต่ระหว่างนั้นก็เกิดเหตุระทึกขวัญซ้อนขึ้นมาทางตะวันออกของเมืองหลวงฝรั่งเศส เมื่อชายหญิงคู่หนึ่ง ก่อเหตุยิงและจับตัวประกันอย่างน้อย 5 คนไว้ภายในซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์ โดยเชื่อว่าคนผู้ชายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียิงตำรวจหญิงเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) ด้วยเบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยแล้ว 2 คน

เจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่ภาพถ่ายชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเป็นที่ต้องการตัวฐานฆ่าตำรวจหญิงรายหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) ที่เวลานี้ก่อเหตุจับตัวประกันไว้ภายในซูเปอร์มาร์เก็ต ทางตะวันออกของกรงปารีส โดยทั้งสองคนมีชื่อว่าอาเมดี คัวลิบาลี วัย 32 ปี และ ฮายัต บัวเมดดีน วัย 26 ปี ที่ถูกพิจารณาในฐานะบุคคลอันตรายและมีอาวุธ

พื้นที่ปอร์เตอเดอ แวงซองน์ ทางภาคตะวันออกของปารีสถูกปิดการเข้าออก โดยเจ้าหน้าที่สั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยและตำรวจกระจายกำลังเข้าประจำการตามท้องถนน

แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างมือปืนคนผู้ชายกับสองพี่น้องที่ถูกกล่าวหาว่าลงมือสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์ “ชาร์ลี เอ็บโด” โดย อาเมดี คัวลิบาลี เคยถูกพบเห็นอยู่กับ นายเชรีฟ กูอาชี ผู้ลงมือสังหารโหด ณ สำนักงานนิตยสาร เมื่อปี 2010 ระหว่างการสืบสวนเหตุพยายามแหกคุกในฝรั่งเศส ทั้งนี้ คัวลิบาลี ถูกตัดสินว่ามีความผิดต่อบทบาทในความพยายามดังกล่าวและ คัวลิบาลี เป็นที่รู้จักดีของตำรวจต่อต้านก่อการร้าย

เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) ทางการฝรั่งเศสได้ยกระดับการเตือนภัยสูงสุดในเขตพื้นที่ปิการ์ดี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส เพื่อกระชับพื้นที่ไล่ล่าสองพี่น้อง เชรีฟ กูอาชี วัย 32 ปี และซาอิดผู้เป็นพี่ชาย วัย 34 ปี หลังมีคนแจ้งว่าพบทั้งคู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปารีสไปราว 80 กิโลเมตร ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากลงมือสังหารหมู่

การตามล่าครั้งใหญ่ต่อ 2 พี่น้องดูเหมือนเข้าใกล้จุดลงเอยในวันศุกร์ (9 ม.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปิดล้อมย่านธุรกิจสิ่งพิมพ์ในดามมาแตง ออง กูเลอ พร้อมสั่งอพยพตามโรงเรียนที่อยู่โดยรอบและห้ามประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวออกนอกบ้าน

ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ได้ปล้นชิงรถยนต์ “เปอร์โยต์ 206” มาจากหญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งจำได้ว่าทั้งคู่คือ ซาอิดและเชรีฟ กูอาชี คนร้ายที่ทางการฝรั่งเศสกำลังตามล่าตัว เพราะก่อเหตุโจมตี “ชาร์ลี เอ็บโด”

อัยการบอกกับเอเอฟพีว่า ก่อนที่จะไล่ต้อนคนร้ายจนมุม ซึ่งทำให้คนร้ายต้องจับตัวประกัน ตำรวจได้ยิงต่อสู้กับพี่น้องคู่นี้ ในขณะที่ขับรถไล่ล่ากันด้วยความเร็วสูง แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บล้มตาย

ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ ได้เข้าร่วมการประชุมของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด ส่วนนายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลส์ ได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ทำสงครามกับศาสนา แต่กำลังทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย

เครื่องบินโดยสาร 2 ลำของสายการ “แอร์ ฟรานซ์” ต้องยกเลิกการลงจอดในสนามบิน ชาร์ลส เดอ โกล เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของทางการที่ไล่ล่าตัวคนร้าย บินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้น

เหตุสังหารหมู่นองเลือดที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด” ในปารีสเมื่อวันพุธ (7 ม.ค.) เรียกเสียงขุ่นเคืองจากนานาชาติ และกระพือการเดินขบวนทั่วโลกเพื่อสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ภายใต้ป้ายข้อความที่เขียนว่า “เฌอ ซุยส์ ชาร์ลี (ฉันคือชาร์ลี)” ขณะที่ประชาชนหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงปารีส ในวันทุกข์ทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.)

ขณะเดียวกัน ก็มีคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า ทั้งคู่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีมุมมองญิฮัด เล็ดลอดผ่านหูผ่านตาไปก่อเหตุโจมตีชาร์ลี เอ็บโด ได้อย่างไร โดยเฉพาะกับ นายเชรีฟ กูอาชี ที่เคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดในปี 2008 ฐานเกี่ยวข้องกับเครือข่ายส่งนักรบญิฮัดไปอิรัก ทั้งนี้ ทั้งสองคนมีพ่อแม่เป็นชาวแอลจีเรีย และเกิดในกรุงปารีส