รอยเตอร์/เอเอฟพี - สหรัฐฯ ตั้งข้อหาพลเมืองอเมริกา 2 คน ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลแกมเบียแต่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ระบุเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักกฎหมายของแดนลุงแซม
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยเมื่อวันจันทร์ (5 ม.ค.) ว่านายเชอร์โร เอ็นฌี วัย 57 ปีและนายปาปา ฟาล วัย 46 ปี จะถูกนำตัวไปขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบัลติมอร์และมินนิอาโปลิส ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ หลังจากถูกแจ้งข้อหาสมคบคิดดำเนินการโค่นล้มรัฐบาลต่างชาติ ซึ่งละเมิดกฎหมายของอเมริกา
“สหรัฐฯ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการสมคบคิดดังกล่าว และด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงเช่นนี้ สหรัฐฯ ให้สัญญาว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง” เอริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกาบอกในถ้อยแถลง
เมื่อวันอังคารที่แล้ว (30 ธ.ค.) เสียงปืนปะทุขึ้นในกรุงบันจูล รอบๆทำเนียบประธานาธิบดียาห์ยา จัมเมห์ ของแกมเบีย ในความพยายามก่อรัฐประหารที่นำโดยอดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม ต่อมา จัมเมห์ ปัดที่จะพูดว่ามันคือการก่อรัฐประหาร และบอกว่ามันเป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจต่างชาติบางประเทศ
ในวันจันทร์ (5 ม.ค.) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่านายเอ็นฌี นักธุรกิจชาวเมืองออสติน มลรัฐเทกซัส พลเมืองอเมริกาซึ่งมีเชื้อสายแกมเบีย มีแผนขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแกมเบียหากการก่อรัฐประหารประสบความสำเร็จ ส่วนนายฟาล จากมินนิโซตา ถือสองสัญชาติทั้งสหรัฐฯ และแกมเบีย
ถ้อยแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า โดยรวมแล้วมีอยู่ราวๆ 10 ถึง 12 คนในแกมเบียที่พยายามโค่นอำนาจรัฐบาล จากเดิมทีที่คาดหมายว่าจะมีคนอื่นๆกลุ่มใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมและช่วยเหลือพวกเขา
ในรายละเอียดของคำฟ้องทางอาญาระบุว่าแผนนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มคนที่มีเชื้อสายแกมเบีย ในนั้นรวมถึงนายฟาล ซึ่งไม่ได้พำนักอยุ่ในแกมเบียมานาน 23 ปี แต่เข้าร่วมกลุ่มเคลื่อนไหวเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว เนื่องจากไม่พอใจที่ประธานาธิบดีจัมเมห์โกงการเลือกตั้ง
นายฟาลให้ปากคำว่า เดิมทีทากลุ่มมีแผนโจมตีขบวนรถของนายจัมเมห์ ระหว่างสัญจรไปยังต่างเมืองช่วงราวๆ คริสต์มาส “พวกเขาหวังว่าประธานาธิบดีจะยอมจำนน แต่ก็ตั้งใจปลิดชีพเขาหากว่าประธานาธิบดีขัดขืนและยิงตอบโต้” นิโคลาส มาร์แชลล เจ้าหน้าที่พิเศษของเอฟบีไอระบุ อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ จัมเมห์ ตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนและโจมตีรัฐสภาแทน แต่ก็ถูกขับไล่จนแตกกระเจิง
ผู้ต้องหารายนี้เล่าต่อว่า ตอนแรกเขาเชื่อว่าน่าจะมีคนกลุ่มใหญ่เดินทางไปยังแกมเบีย แต่ท้ายที่สุดแล้วมีเพียง 10 ถึง 12 คนเท่านั้นที่ช่วยก่อรัฐประหาร ในนั้นรวมถึงสมาชิกบางคนที่มาจากสหราชอาณาจักร
ด้านนายเอ็นฌี เดินทางกลับไปร่วมเคลื่อนไหวในแกมเบีย เพราะเขาจะได้รับการตั้งแต่เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวหากการก่อรัฐประหารประสบความสำเร็จ แต่พอล้มเหลวเข้าก็เดินทางกลับสหรัฐฯในวันเสาร์ (3 ม.ค.) ทว่าก็ถูกรวบตัวในทันที กระนั้นยังปฏิเสธให้ปากคำกับเอฟบีไอ