เอพี - วานนี้ (4 ม.ค.) ผู้โดยสารหลายร้อยคนเดินทางไปถึงเมืองซานฟรานซิสโกโดยสวัสดิภาพ แต่พวกเขากลับรู้สึกขุ่นเคืองยิ่งนัก ภายหลังต้องใช้เวลาข้ามแดนนาน 28 ชั่วโมง รวมถึงช่วงเวลาที่ต้องติดแหงกบนรันเวย์ในตะวันออกกลางนานถึง 12 ชั่วโมงโดยไม่มีอาหารตกถึงท้อง ทั้งยังไม่ทราบเวลาออกเดินทางอย่างแน่ชัด
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้เล่าให้สถานีโทรทัศน์เคจีโอของซานฟรานซิสโกฟังว่า ผู้โดยสารพากันโกรธเคือง เมื่อเที่ยวบิน 183 ของสายการบิน “เอทิฮัดแอร์เวย์ส” ต้องชะลอการนำเครื่องขึ้นออกไปนานครึ่งวันเนื่องจากมีหมอกลงในกรุงอาบูดาบี
โธมัส เพียนี หนึ่งในผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางไปกับเครื่องบินลำนี้ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในซานฟรานซิสโก ภายหลังเดินทางไปถึงสหรัฐฯ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4) ว่า “พวกเขาเอาแต่พร่ำบอกว่า อีก 15 นาที เราจะออกเดินทางกันแล้ว จากนั้นก็ผลัดไปอีก 20 นาที อีก 30 นาที จนเบ็ดเสร็จแล้วเราต้องรอนาน 12 ชั่วโมง”
เหล่าผู้โดยสารกล่าวว่า ลูกเรือแจ้งว่าสนามบินอาบูดาบีกำลังอัดแน่นไปด้วยผู้โดยสารที่ประสบปัญหาเที่ยวบินล่าช้าท่านอื่นๆ จนเหลือพื้นที่ไม่เพียงพอ พวกเขาจึงต้องกัดฟันนั่งรอบนเครื่องกันต่อไป
เวนกาเตช ปาห์วา ผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าวว่า “ทุกคนล้วนแต่หงุดหงิดจนเริ่มทะเลาะกัน และพนักงานต้อนรับก็เริ่มกระทบกระทั่งกับเรา จากนั้นเราก็เริ่มมีปากมีเสียงกับลูกเรือ”
ทั้งนี้ เอติทิฮัด ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระบุในคำแถลงในเว็บไซต์ว่า มีเที่ยวบินหลายเที่ยวต้องล่าช้าเพราะหมอกลงจัดทำให้ท่าอากาศยานแออัดไปด้วยผู้คนที่รอออกเดินทาง
สายการบินเจ้านี้ได้กล่าวขออภัยสำหรับความไม่สะดวกที่เหล่านักเดินทางต้องเผชิญ แต่ก็ชี้ว่าปัญหาเที่ยวบินล่าช้านั้นเป็นเหตุสุดวิสัย
อย่างไรก็ดี โฆษกของเอทิฮัดยังไม่ได้ออกมามีถ้อยแถลงใดๆ หลังจากเมื่อหลายชั่วโมงก่อนสำนักข่าวเอพีได้สอบถามถึงปัญหาต่างๆ ที่ผู้โดยสารบนเครื่องต้องพบเจอระหว่างรออยู่บนรันเวย์