รอยเตอร์ - หัวหน้าคณะทํางานภารกิจต่อต้านอีโบาของสหประชาชาติระบุเมื่อวันศุกร์ (2 ม.ค.) หนึ่งวันก่อนพ้นตำแหน่ง ว่าโลกสามารถมีชัยเหนือการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกภายในสิ้นปีนี้ แต่เตือนยังคงมีงานหนักรออยู่ในอีกหลายเดือนข้างหน้า
ไวรัสมรณะอีโบลา ซึ่งถูกพบครั้งแรกในดินแดนห่างไกลทางตะวันออกเฉียงใต้ของกินีในช่วงต้นปี 2014 แพร่ระบาดไปทั่ว 6 ชาติแอฟริกาตะวันตก โดยกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย คือ 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด มีผู้ติดเชื้อรวมกันราว 20,000 คน เสียชีวิตเกือบ 8,000 ราย
หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากทั่วโลกว่าไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอ นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อการตอบสนองฉุกเฉินต่ออีโบลาแห่งสหประชาชาติ (UNMEER)ในเดือนกันยายน เพื่อประสานงานความพยายามจากทั่วโลก
“เรายังไม่ได้เฉียดใกล้จุดสิ้นสุดของวิกฤต สิ่งที่เราตอบสนองมากมายในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง แต่เรายังเหลือเส้นทางที่ยากลำบากและอีกยาวไกล” นายแอนโทนี บันบิวรี หัวหน้าคณะทำงานเพื่อการตอบสนองฉุกเฉินต่ออีโบลาแห่งสหประชาชาติ บอกกับผู้สื่อข่าวที่กรุงอักกรา เมืองหลวงของกานา ที่ตั้งของศูนย์บัญชาการ UNMEER
“มันคงจะยือเยื้อต่อไปไม่ใช่แค่สัปดาห์แต่เป็นอีกหลายเดือน แต่เราเชื่อว่าเราจะทำสำเร็จในปี 2015 และเราเชื่อว่าเราจะทำมันสำเร็จผ่านการร่วมมืออย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่กับรัฐบาลของประเทศต่างๆเท่านั้น แต่รวมไปถึงในระดับชุมชนด้วย” เขากล่าว โดยเขาจะถูกแทนที่โดยนายอูลด์ ชีค อาห์เหม็ด เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมรุ่นอาวุโสจากมอริเตเนียในวันเสาร์ (3 ม.ค.)
ด้วยยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นอย่างฉับพลันในเซียร์ราลีโอน นั่นหมายความว่า UNMEER พลาดเป้าหมายที่เคยวางไว้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ว่าร้อยละ 70 จากคนไข้ทั้งหมดจะถูกนำมารักษาในศูนย์กักกันโรคต่างๆ และจะสามารถฝังศพเหยื่ออีโบลาอย่างเหมาะสมราวร้อย 70 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายฝังศพบรรดาเหยื่ออย่างปลอดภัยทุกศพหรือ 100 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2015 มีแนวโน้มไปได้ด้วยดี ด้วยตอนนี้ทีมฝังศพอย่างถูกสุขลักษณะและปลอดภัย 254 คณะ กระจายกำลังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ต่างๆของเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน ทาง บันบิวรี ก็ยืนยันว่าตอนนี้ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกมีศูนย์รักษาเพียงพอรับมือกับผู้ติดเชื้อแล้ว
นอกเหนือจากกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรียแล้ว ไนจีเรีย เซเนกัล มาลี สหรัฐฯ สเปนและอังกฤษ ก็พบผู้ป่วยอีโบลาเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนไข้ที่นำเข้าเชื้อไวรัสมรณะาจากเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด
