รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน หลังเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของฟิลิปปินส์ในวันพุธ (31 ธ.ค.)
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมาจากผลพวงของพายุโซนร้อนจางมี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 53 ราย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 86,000 คนในพื้นที่จังหวัดซูริเกา เดล ซูร์ , โบโฮล และเซบูต้องอพยพออกนอกพื้นที่ ก่อนที่พายุโซนร้อนลูกดังกล่าวจะอ่อนกำลังลงกลายเป็นดีเปรสชั่น
พายุลูกดังกล่าวพัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ครั้งแรกเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ที่ผ่านมาที่จังหวัดซูริเกา เดล ซูร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ก่อนจะทวีกำลังแรงขึ้นและพัดถล่มพื้นที่หลายจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียง
ด้านอเล็กซานเดอร์ ปามา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของฟิลิปปินส์ออกโรงเตือนว่า แม้พายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในอีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตภูเขาซึ่งรับน้ำฝนเอาไว้เป็นปริมาณมากตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ฟิลิปปินส์เพิ่งถูกพัดถล่มจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นฮากูปีตเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่แดนตากาล็อกจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7,000 คน