เอเอฟพี - ชาวบ้านเกือบ 400 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากปัญหาด้านหัวใจและระบบทางเดินหายใจ อันมีต้นตอจากมลพิษทางอากาศขั้นเลวร้ายในกรุงเตหะราน เจ้าหน้าที่อิหร่านเผยเมื่อวันอังคาร(30ธ.ค.) ขณะที่คนอื่นๆอีกราว 1,500 คนก็ต้องได้รับการรักษาอาการป่วยภายนอก
ตลอดปีที่ผ่านมา มีรถยนต์กว่า 4 ล้านคันปล่อยไอเสียขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศในเมืองหลวงของอิหร่าน และสถานการณ์เลวร้ายหนักในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอากาศเย็นนำพาหมอกมลพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งปกคลุมไปทั่วเมือง
"มีประชาชนราว 392 คนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากปัญหาระบบทางเดินหายใจและปัญหาด้านหัวใจ เรายังรักษาภายนอกแก่คนอื่นๆอีก 1,434 คน" สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ อ้างคำสัมภาษณ์นายฮัสซัน อับบาส ผู้จัดการหน่วยฉุกเฉิน ที่กล่าวถึงเหยื่อมลพิษครั้งล่าสุดที่เข้ารักษาตัวเมื่อวันจันทร์(29ธ.ค.)
เจ้าหน้าที่เผยว่ากำลังพิจารณาปิดโรงเรียนและออกข้อจำกัดด้านการจราจรทั่วทั้งเมืองหลวงในวันพุธ(31ธ.ค.) แต่ก็ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ร้องขอให้ผู้ป่วยที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอและคนชราหลีกเลี่ยงสัญจรในตัวเมือง เนื่องจากกังวลว่าอาจได้รับผลกระทบจากการหายใจเอาอากาศที่เป็นมลพิษเข้าไป ที่ผสมปนเปไปด้วยคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์และอนุภาคยางที่สกปรก
คำร้องขอดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกรุงเตหะรานและเมืองอื่นๆ ในนั้นรวมถึงเมืองอิสฟาฮาน จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและเมืองมัชฮัด ดินแดนทางศาสนา ต้องประสบกับภาวะมลพิษขั้นเลวร้ายสุดขีดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
กรุงเตหะราน เมืองที่มีประชากร 12 ล้านคน กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ประสบปัญหามลพิษเลวร้ายที่สุดของโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันมีระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,100-1,700 เมตรและถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูง
ขณะเดียวกันอิหร่านยังเป็นชาติที่มีคนใช้รถยนต์โดยเฉลี่ยมากกว่าประเทศอื่นๆ และสถานการณ์ยิ่งถูกซ้ำเติมให้เลวร้ายลงไปอีก เพราะน้ำมันที่ใช้บางส่วนนั้นมีคุณภาพต่ำ
กระทรวงสาธารณสุขอิหร่านเคยระบุว่าในปี 2012 ปัญหามลพิษทางอากาศมีส่วนใหญ่ทำให้มีผู้คนในเตหะรานเสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึง 4,500 คนและอีกราวๆ 80,000 คนทั่วประเทศ
