xs
xsm
sm
md
lg

เผย เกาหลีเหนือพร้อมผลิต “ระเบิดนิวเคลียร์ 79 ลูก” ภายในปี 2020

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ข้อมูลล่าสุดยืนยัน รัฐบาลเกาหลีเหนือมีศักยภาพในการผลิต “ระเบิดนิวเคลียร์” ได้มากถึง 79 ลูกภายในปี ค.ศ.2020 หรืออีกราว 5 ปีข้างหน้า

รายงานล่าสุดภายใต้ชื่อ“อนาคตนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ”ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยยูเอส-โคเรียแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ (ไอเอสไอเอส) เผยข้อมูลซึ่งระบุว่า รัฐบาลคอมมิวนิสต์เปียงยางภายใต้การนำของคิม จอง-อึน มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้มากถึง 79 ลูกภายในปี 2020

เดวิด แอลไบรท์ ประธานและผู้ก่อตั้งสถาบันไอเอสไอเอสซึ่งมีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า รัฐบาลโสมแดงได้เร่งกำลังการผลิตวัตถุดิบสำคัญอย่าง “พลูโตเนียม” รวมถึงทำการเสริมสมรรถนะแร่ “ยูเรเนียม” อย่างสำคัญตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งนั่นก็ช่วยให้รัฐบาลเปียงยางสามารถนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้เป็นจำนวนมาก และมากพอที่จะเทียบชั้นกับรัฐนิวเคลียร์อื่นๆ อย่างอินเดีย ปากีสถานและอิสราเอล

ขณะเดียวกัน แสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแทบไม่ถูกขัดขวางจากนานาชาติกำลังจะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อความมั่นคงทั้งของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ไม่เว้นแม้แต่ ชาติพันธมิตรของเกาหลีเหนืออย่างจีนที่กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านนิวเคลียร์ของเปียงยางด้วยความระแวดระวัง

ข้อมูลจากรายงานฉบับล่าสุดนี้ยังระบุว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือมีปริมาณแร่พลูโตเนียมเกรดดีอยู่ในครอบครองในปี 2014 นี้ระหว่าง 30-34 กิโลกรัม ซึ่งมากพอจะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ราว 9 ลูกในสิ้นปีนี้ และทางการเปียงยางยังคงไม่ลดละความพยายามในการจัดหาพลูโตเนียมมาครอบครองเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ภายในรายงานฉบับล่าสุด มีการยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯเร่งพิจารณา “ทางเลือกที่เหมาะสม”สำหรับรับมือภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ ซึ่งหนึ่งในทางเลือกดังกล่าว อาจต้องรวมถึงการเปิดเจรจาระหว่างวอชิงตันและเปียงยางภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ ท่ามกลางความกังวลว่า ดูเหมือนรัฐบาลอเมริกันในเวลานี้จะตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการหันไปทุ่มเททรัพยากรในการป้องกัน “การโจมตีไซเบอร์” จากเกาหลีเหนือเสียมากกว่า ทั้งที่การโจมตีในรูปแบบดังกล่าวถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ น้อยกว่าภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์


กำลังโหลดความคิดเห็น