เอเอฟพี - คณะสืบสวนของรัสเซียเมื่อวันพุธ(24ธ.ค.) ระบุว่ามีข้อพิสูจน์ใหม่จากพยานที่เห็นเครื่องบินรบเคียฟยิงขีปนาวุธออกมาในวันเดียวกับที่เที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกทางภาคตะวันออกของยูเครน คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 298 ศพ
ไม่มีการเปิดเผยชื่อพยานรายนี้ แต่ชายคนดังกล่าวทำงานที่ลานบินแห่งหนึ่งในเมืองดนิโปรเปตรอฟส์ก จุดที่เขาพบเห็นเครื่องบินรบลำหนึ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับขีปนาวุธอากาศสู่อากาศเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม แต่กลับมาในสภาพที่ไม่ได้บรรทุกขีปนาวุธ
คำแถลงของคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่าคำให้การของชายคนนี้คือข้อพิสูจน์สำคัญที่ชี้ว่ากองทัพยูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโหม่งโลกของเครื่องบินโบอิ้ง777
เที่ยวบิน MH17 จากอัมสเตอร์ดัมสู่กัวลาลัมเปอร์ ถูกยิงตกเหนือดินแดนทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลเคียฟมาตั้งแต่เดือนเมษายน
ยูเครนและตะวันตกกล่าวหารัสเซียจัดหาสนับสนุนเครื่องยิงขีปนาวุธจากภาคพื้นสู่อากาศแก่กบฏ แต่มอสโกปฏิเสธและนำเสนอทฤษฎีตรงข้ามต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงคำกล่าวอ้างที่ว่าพบเห็นเครื่องบินรบของยูเครนบินอยู่ใกล้ๆกับโบอิ้ง777 ก่อนที่มันจะถูกยิงตก
ถ้อยแถลงของทีมสืบสวนรัสเซียมีขึ้นในวันเดียวกับที่เคียฟและพวกแบ่งแยกดินแดนนัดเจรจาหยุดยิงรอบใหม่ และไม่นานหลังจากหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ Komsomolskaya Pravda ของแดนหมีขาว เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของพยานลับ ซึ่งกล่าวอ้างว่าทำงานที่อยู่สนามบินตอนที่เที่ยวบิน MH17โหม่งโลก
ระหว่างการสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ชายคนนี้หันหลังให้กล้อง และแม้จะเห็นแค่เพียงด้านหลังศีรษะแต่ก็ยังถูกทำเป็นภาพเบลอ โดยเขาบอกว่าเห็นเครื่องบินรบซูคอย-25 บรรทุกจรวดอากาศสู่อากาศทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและกลับสู่ฐานทัพด้วยลำเปล่าๆ "ผู้บังคับเครื่องบินอาจปล่อยมันเข้าใส่โบอิ้งด้วยความกลัวหรือเป็นการแก้แค้น" พยานกล่าว พร้อมระบุตัวนักบินว่าชื่อโวโลชิน "บางทีเขาอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินลำอื่น"
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างว่าพยานคนนี้เข้ามาแสดงตัวที่สำนักงานด้วยตนเอง และได้ดำเนินการตรวจสอบตัวตนของเขาแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของชายคนดังกล่าว เนื่องจากครอบครัวของเขายังอยู่ในยูเครน
ส่วนคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซีย บอกว่าชายคนดังกล่าวซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะพยานอย่างเป็นทางการ บางทีอาจต้องถูกส่งเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยาน
ก่อนหน้านี้ไม่มีหลักฐานว่าคณะสืบสวนรัสเซียเข้าตรวจสอบเหตุเที่ยวบิน MH17 โหม่งโลกอย่างเป็นทางการ ด้วยที่เหยื่อของโศกนาฏกรรมดังกล่าวเป็นพลเมืองของ 11 ประเทศ แต่ไม่มีชาวรัสเซียรวมอยู่ด้วยแม้แต่รายเดียว
เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์ คือผู้รับหน้าที่ตรวจสอบหาต้นตอที่แท้จริงที่ทำให้เครื่องบินลำนี้โหม่งโลก และเวลานี้อยู่ระหว่างประกอบชิ้นส่วนของเครื่องบินใหม่ ส่วนหนึ่งในขั้นตอนการสืบสวน ขณะที่ผลสืบสวนเบื้องต้นทราบเพียงว่า เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวน่าจะถูกกระแทกด้วยวัตถุพลังสูงที่มาจากนอกเครื่องบินหลายๆ ชิ้น เป็นเหตุให้โครงสร้างของเครื่องบินเสียหายหนักและโหม่งโลก