เอเอฟพี – คณะอัยการเกาหลีใต้ตั้งข้อหาผู้ก่อตั้งและประธานบริหารชาวอเมริกันของบริษัท อูเบอร์ (Uber) ผู้ให้บริการรถรับจ้างทางสมาร์ทโฟนรวมถึงหุ้นส่วนชาวเกาหลีของเขาในวันนี้ (24) ฐานให้บริการแท็กซี่ผิดกฎหมาย โดยความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นผละกระทบล่าสุดจากชื่อเสี่ยงทางลบของบริษัทแห่งนี้
คณะอัยการ ระบุว่า ทราวิส คาลานิค ซีอีโอของอูเบอร์ และบริษัทผู้ให้บริการรถยนต์เช่าท้องถิ่นแห่งหนึ่งถูกตั้งข้อหาฐานละเมิดกฎหมายควบคุมบริการขนส่งผู้โดยสาร
พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ถูกควบคุมตัว และยังไม่แน่ชัดว่า คาลานิค จะเดินทางมาที่กรุงโซลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีหรือไม่
ในเกาหลีใต้ ผู้ให้บริการรถยนต์เช่าถูกห้ามไม่ให้ประกอบธุรกิจขนส่งผู้โดยสารโดยใช้รถยนต์ของตนเอง ผู้ที่ละเมิดจะต้องรับโทษจำคุก 2 ปีหรือเสียค่าปรับเป็นเงิน 20 ล้านวอน (เกือบ 60,000 บาท)
ฝ่ายปกครองกรุงโซลได้ยื่นคำร้องต่อคณะอัยการ โดยระบุว่า การให้บริการของอูเบอร์ก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารและคุกคามการดำรงชีพของผู้ขับรถแท็กซี่ที่มีใบอนุญาต
หน่วยงานจัดระเบียบเมืองได้ดำเนินการปราบปรามผู้ขับขี่และรถยนต์เช่าที่ทำงานกับอูเบอร์ โดยมีการเสนอเงินรางวัลมากสุดถึง 1 ล้านวอน (เกือบ 30,000 บาท) ให้กับผู้ที่รายงานกิจกรรมของอูเบอร์
บริษัท อูเบอร์ ซึ่งมีฐานอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียคือแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนที่โด่งดังที่สุดในหลายๆ แอพฯ ซึ่งกำลังสั่นสะเทือนรากฐานของแท๊กซี่แบบดั้มเดิมในหลายเมืองทั่วโลก
อูเบอร์เผชิญกับการขัดขวางอย่างหนักจากบรรดาหน่วยงานจัดระเบียบแล้วในหลายๆ ประเทศ ซึ่งกล่าวหาบริษัทนี้ว่าทำการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมและขาดมาตรฐาน
อูเบอร์ยังเป็นชนวนให้เกิดบรรดาผู้ขับรถแท็กซี่ลุกขึ้นมาประท้วงอย่างโกรธเกรี้ยวในฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ที่กลัวว่าอูเบอร์กำลังทำให้ฐานลูกค้าของพวกเขาลดน้อยลง และในเดือนนี้เรื่องของอูเบอร์ก็ตกเป็นพาดหัวข่าวไปทั่วโลก หลังจากผู้ขับขี่รถแท๊กซี่ของอูเบอร์ก่อคดีข่มขืนผู้โดยสารในกรุงนิวเดลี